
สังคมกังขา!! อัยการสั่งไม่ฟ้อง “เปรมชัย” 5 ข้อหา ควรฟ้อง 6 ข้อ เรียกค่าเสียหาย 4.6 แสน!!
หน้าแรกTeeNee    ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง  ข่าวอื่นๆ    สังคมกังขา!! อัยการสั่งไม่ฟ้อง “เปรมชัย” 5 ข้อหา ควรฟ้อง 6 ข้อ เรียกค่าเสียหาย 4.6 แสน!!
อธิบดีอัยการภาค 7 แถลงความคืบหน้าพิจารณาคดีนายเปรมชัย กรรณสูต กับพวก โดยอัยการสั่งฟ้องเปรมชัย 6 ข้อกล่าวหา ไม่ฟ้อง 5 ข้อกล่าวหา พร้อมเรียกค่าเสียหาย 4.6 แสนบาท ให้กับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ส่วนข้อหาที่สั่งไม่ฟ้องส่งสำนวนไปให้ผบช.ตำรวจภูธรภาค 7 พิจารณาความอาญามาตรา 145/1 หากไม่เห็นชอบจะส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาด


เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่ห้องประชุมสำนักงานอัยการภาค 7 จังหวัดราชบุรี นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 พร้อมด้วยนายสมเจตน์ อำนวยสัวสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 และนายทะนง ตะภา อัยการจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าในการพิจารณาคดีนายเปรมชัย กรรรณสูต กับพวก เมื่อวันที่ 20 มี.ค.61 สืบเนื่องจากสำนักอัยการจังหวัดทองผาภูมิได้รับสำนวนสอบสวนคดีระหว่างนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี
ผู้กล่าวหานายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาที่ 1 นายยงค์ โดดเครือ ผู้ต้องหาที่ 2 นางนที เรียมแสน ผู้ต้องหาที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ ผู้ต้องหาที่ 4 โดยกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 4 คนว่า 1.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 2.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 3.ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 4.ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 5.ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยพา เอาไปเสียหรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากของสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำความผิดกฎหมาย
6.ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 7.ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 8.ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 9.ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และโดยไม่มีเหตุอันสมควร 10.ร่วมกันกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์ป่าโดยไม่มีเหตุอันสมควร
พนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 คนตามข้อกล่าวหา แต่เห็นสมควรไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1 คือนายเปรมชัยในข้อหามีอาวุธปืนฯและเห็นสมควรสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 คนตามข้อหาในข้อ 10
ทั้งนี้ คณะทำงานตามที่นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 ประกอบด้วย นายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน มีนายทะนง ตะภา อัยการจังหวัดทองผาภูมิ พ.ต.ท.อำนาจ สุจริตชัย รองอัยการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นคณะทำงาน และนายกฤษฎา ชูโต รองอัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นคณะทำงานและเลขานุการ ร่วมกันพิจารณาและมีความเห็นเสนอให้นางสมศรี วัฒนไพศาล มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนเพิ่มเติม รวม 2 ครั้ง
โดยระหว่างการพิจาณาของคณะทำงานนายเปรมชัย กรรณสูต กับพวก ยื่นหนังสือ ร้องขอความเป็นธรรมต่ออธิบดีอัยการภาค 7 เมื่อวันที่ 26 มี.ค.61 และขอให้สอบสวนเพิ่มเติมพยานที่เกี่ยวข้องในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการซื้อซากสัตว์จากร้านอาหารของนายเปรมชัย กรรณสูต กับพวกและประเด็นที่เกี่ยวกับพยานหลักฐานของซากสัตว์ที่พบในที่เกิดเหตุ และผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์และอื่นๆ
นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 พร้อมด้วยนายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 ร่วมกันแถลงผลพิจารณาคดีของนายเปรมชัย กรรณสูตและพวก 1.คณะทำงานซึ่งมีนายสมเจตน์ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ร่วมกันตรวจพิจารณาสำนวนโดยละเอียดรอบคอบแล้ว มีความเห็นทางคดีเสร็จเรียบร้อยและเสนอให้นางสมศรี มีคำสั่งในคดี ส่วนในประเด็นการร้องขอความเป็นธรรมของนายเปรมชัย กรรณสูต กับพวก คณะทำงานพิจารณาแล้วเห็นว่าตามประเด็นที่ร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าว ได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานตามประเด็นที่ร้องขอความเป็นธรรมครบถ้วนแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องสอบสวนเพิ่มเติม
อธิบดีอัยการภาค 7 พิจารณามีคำสั่งฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต ข้อหา 1.ฐานร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยมิได้รับอนุญาตและโดยไม่มีเหตุสมควร 2.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 3.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 4.ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 5.ร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยพา เอาไปเสีย หรือ รับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำความผิดกฎหมาย 6.ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่
และสั่งไม่ฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต ข้อหา 1.ฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต 2.ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 3.ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์ป่าหรือจับสัตว์ป่าหรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 4.ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และ 5.ร่วมกันทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร
ส่วนนายยงค์ โดนเครือ ผู้ต้องหาที่ 2 อธิบดีอัยการภาค 7 พิจารณามีคำสั่งฟ้องฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยมิได้รับอนุญาตและโดยไม่มีเหตุสมควร ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยพา เอาไปเสีย หรือ รับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำความผิดกฎหมาย ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่
และสั่งไม่ฟ้องฐานร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์ป่าหรือจับสัตว์ป่าหรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และร่วมกันทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร
ด้านนางนที เรียมแสน ผู้ต้องหาที่ 3 ถูกสั่งฟ้อง ฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยมิได้รับอนุญาตและโดยไม่มีเหตุสมควร ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยพา เอาไปเสีย หรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำความผิดกฎหมาย ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่
และสั่งไม่ฟ้องฐานร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์ป่าหรือจับสัตว์ป่าหรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และร่วมกันทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร
ส่วนนายธานี ทุมมาศ ผู้ต้องหาที่ 4 ถูกสั่งฟ้อง ฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยมิได้รับอนุญาตและโดยไม่มีเหตุสมควร ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยพา เอาไปเสีย หรือ รับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำความผิดกฎหมาย ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
และสั่งไม่ฟ้องนายธานี ในข้อหา ฐานร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์ป่าหรือจับสัตว์ป่าหรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และร่วมกันทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร
ทั้งนี้นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 พิจารณาแล้วให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวน 462,000 บาท ให้กับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ส่วนข่าวที่ออกมาก่อนหน้าที่ว่ามีการเรียกปรับในจำนวนหลักล้านบาทนั้นเป็นข่าวที่ไม่ได้กรอง หรือไม่ได้ออกมาจากการแถลงของทางสำนักงานอัยการภาค 7 เนื่องจากในเรื่องนี้เราฟ้องค่าเสียหายทางแพ่งไปกับอาญาได้ของพระราชบัญญัติสัตว์ป่าสงวนแห่งชาติเท่านั้น ส่วนที่เกี่ยวกับ พรบ.สิ่งแวดล้อมเกี่ยวข้องกับระบบนิเวศเป็นหน้าที่ที่ต้องไปติดตามเรียกร้องทางแพ่งต่างหาก เพราะฉะนั้นอย่าสงสัยว่าทำไมเราเรียกร้องค่าเสียหายได้เท่านี้
นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 ยังระบุว่า ในกรณีที่สั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาบางคน บางข้อหา ให้ส่งสำนวนไปให้กับทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145/1 เพื่อให้มีความเห็นทางคดีว่ามีความเห็นชอบกับคำสั่งที่ทางอธิบดีอัยการภาค 7 มีคำสั่งไปหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ได้ส่งสำนวนทั้งหมดไปให้ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 แล้ว
ส่วนการเตรียมความพร้อมในเรื่องของการฟ้องขณะนี้เราเตรียมความพร้อมไว้หมดแล้วเหลือเพียงความเห็นชอบของทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ว่ามีความเห็นชอบกับทางอธิบดีอัยการภาค 7 หรือไม่ ถ้าเห็นชอบเราก็จะยื่นฟ้องผู้ต้องหา ถ้ามาวันนี้เราก็ยื่นฟ้องได้ทันที แต่ถ้าทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 มีความเห็นชอบกับคำสั่งของอธิบดีอัยการภาค 7 แล้ว ทางเราจะส่งสำนวนทั้งหมดไปยังท่านอัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาดในคดีนี้ถ้ากรณีเกิดการแย้งกัน แต่ถ้าไม่แย้งก็จะส่งเรื่องมาที่เราและจะยื่นเรื่องส่งฟ้องที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิต่อไป
ที่มา : ข่าวสด
เครดิต :   
 
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!

 กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
  กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























 กระทู้ล่าสุด
 กระทู้ล่าสุด


 รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
 รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday