ผู้เสียหาย กล่าวว่า ขับมาตามถนนโชตนาขาออก ชิดเลนขวาเพื่อเตรียมเลี้ยวขวาบริเวณสี่แยกข่วงสิงห์ที่อยู่ข้างหน้า เมื่อขับผ่านหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ มีรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีบรอนด์เงิน ทะเบียน กพ 9677 เชียงใหม่ ขับจี้ท้ายและกดแตรไล่หลายครั้ง ทั้งที่ตนเองขับรถมาตามปกติ และไม่สามารถขับต่อไปได้ เนื่องจากมีรถด้านหน้าหลายคัน
เมื่อขับถึงสี่แยกข่วงสิงห์ ตนเองเลี้ยวขวา จังหวะนั้นรถคันที่ตามมาแซงซ้ายขึ้นมา พร้อมกับเปิดกระจกชักปืนพกสั้นยื่นออกมานอกรถข่มขู่ ทำให้ตนเองหวาดกลัวเป็นอย่างมาก จึงตัดสินใจนำคลิปเข้าแจ้งความ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเวลา 17.31 น. เมื่อวันที่ 2 เม.ย.
ต่อมาชุดสืบสวน สภ.ช้างเผือก ตรวจสอบข้อมูลป้ายทะเบียนและเข้าไปนำตัวนายธนารัตน์ จากบ้านพักในช่วงเช้าวันนี้ และนำตัวมาแจ้งข้อกล่าวหา
นายธนารัตน์ ให้การรับสารภาพว่า ขับรถตามหลังผู้เสียหายเพื่อนำเงินของสถานีขนส่งไปเข้าธนาคาร แต่เนื่องจากเป็นช่วงเย็นธนาคารใกล้ปิด จึงกลัวไม่ทันจึงหงุดหงิด จึงกดแตรไล่ เมื่อถึงสี่แยกข่วงสิงห์ตนเองตั้งใจจะเลี้ยวขวาเหมือนกับผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายก็ขับช้าและปิดช่อง ทำให้ตนเองเลี้ยวขวาไม่ได้ ทำให้ต้องตรงไปแทน จึงหงุดหงิดชักปืนอัดลมออกมาขู่ โดยไม่ติดว่าจะถูกแจ้งความ ตนไม่รู้ว่าผู้เสียหายเป็นผู้หญิงขับมาคนเดียวและก็ไม่ทราบว่าตั้งครรภ์ ทำให้ต้องขับช้าและเบรกหลายครั้งเพื่อความปลอดภัย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขอโทษผู้เสียหายและจะไม่ทำแบบนี้อีก
ด้าน พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวภายหลังเดินทางมาสอบสวนผู้ต้องหา ว่า คดีนี้แม้จะเป็นความผิดเล็กน้อย แต่ได้สั่งให้พนักงานสอบสวนพิมพ์ลายนิ้วมือและนำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องศาล ไม่ให้เปรียบเทียบปรับที่โรงพัก เพื่อให้มีประวัติในระบบและให้หลาบจำไม่ไปทำอีก