อย่างไรก็ตาม ต่อมา เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้เชิญชายคนดังกล่าว ที่ต่อมาทราบชื่อว่า ส.ต.ต.อุกฤษ บริบูรณ์ ผบ.หมู่ปราบปราม สภ.สีดา มาพูดคุยกัน และชี้แจงว่า ทางภรรยาของชายคนนี้ไม่เคยมาฝากครรภ์ มีเพียงแค่ประวัติมาที่โรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการท้องเสียเมื่อปี 2558 ซึ่งทางโรงพยาบาล ได้พยายามติดต่อกับหญิงสาวคนนี้ที่ชื่อว่า น.ส.สาวิตรี สหุนันท์ และเธอก็ได้ติดต่อเข้ามาและสารภาพว่า ตนเองไม่ได้ตั้งครรภ์ หากแต่ตนโกหกพ่อแม่และสามีมาตลอด 9 เดือน ตนใช้ผ้ายัดท้อง และส่งรูปไปให้สามีดูเหมือนกับว่าตนเองท้องจริง เมื่อถึงกำหนดคลอด ตนเลยบอกกับสามีว่า โรงพยาบาลทำลูกตายแล้วเอาไปลูกไปเผา
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2561 เวลา 10.00 น.ที่โรงพยาบาล ป.แพทย์1 ถนนไชยณรงค์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา สตต.อุกฤษ บริบูรณ์ ผบ.หมู่ปราบปราม สภ.สีดา จึงได้เข้ามาพบกับ นายแพทย์ วิศาล ชาญพานิช สูติแพทย์ รพ.ป.แพทย์ เพื่อชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งนายแพทย์ วิศาล ชาญพานิช กล่าวว่า เนื่องจาก น.ส.สาวิตรี ต้องการแต่งงานกับฝ่ายชาย จึงกุเรื่องขึ้นมา พอถึงกำหนดคลอดเลยบอกว่ามาฝากท้องกับหมอ แต่หมอทำเด็กตาย เอาเด็กไปเผาไม่ให้ฝ่ายชายดูลูก ฝ่ายชายจึงมาโวยที่โรงพยาบาล ถามหมอว่าหมอเอาแฟนไว้ไหน หาไม่เจอ ทั้งที่มาด้วยกัน แต่เมียหลบไปบอกไปเข้าห้องน้ำ แล้วจึงหายไปด้วยกัน
จากการค้นประวัติ จึงพบว่า น.ส.สาวิตรี เคยมารักษาที่นี่เมื่อ 5 ปีก่อน ทางโรงพยาบาลจึงโทรศัพท์ไป แล้วฝ่ายหญิงจึงรับสารภาพว่าโกหก แต่ฝ่ายชายเองไม่รู้เพราะทำงานอยู่ไกล เพื่งจบสิบตำรวจ ไปอยู่หน่วยสอบสวนที่ อ.สีดา และตอนนั้นฝ่ายชายเองยังไม่รู้เรื่อง และวันรุ่งขึ้นฝ่ายชายก็มาโวยอีกรอบ 2 เสร็จแล้วก็ขับรถออกไปเกือบชนคนไข้ หมอจึงโทร.หา น.ส.สาวิตรี อีกรอบ ซึ่งขณะที่ฝ่ายชายมาโวยที่ รพ. 2 รอบแบบนี้ ฝ่ายหญิงเองก็ยังโกหกต่อ ไม่กล้าบอกแฟน !
อย่างไรก็ตาม ผ่านไป 1 สัปดาห์ ส.ต.ต.อุกฤษ บริบูรณ์ เมื่อทราบเรื่องว่าไม่มีการตั้งท้องขึ้นจริง และมีการเผยแพร่คลิปโวยวายของตนลงโซเชียล ตนจึงขอหย่ากับ น.ส.สาวิตรี พร้อมกับมาขอขมาคุณหมอ และบอกว่า
"ตนขอโทษทางโรงพยาบาล ป.แพทย์ และทางคุณหมอ ที่ตนทำลงไปวันนั้นคือ ไม่รู้ว่าจะไปหาคำตอบได้จากใคร จึงใช้โรงพยาบาล เพราะผู้หญิงไม่ยอมบอกว่ามันคืออะไร แต่ตนก็รู้แล้วว่าภรรยาโกหก จึงได้มาที่โรงพยาบาลมาทำแบบนี้ เพราะทาง รพ. คงไม่ยอมปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้เพราะเป็น รพ. ที่มีชื่อเสียง
ตนขอโทษที่ทำไปโดยขาดสติ ตนโง่มาเป็นปี ไม่มีใครจ้างให้มาทำให้ รพ. เสียชื่อเสียง ตนขอเอาอาชีพตำรวจเป็นประกัน ตนยอมรับว่าตนเองอารมณ์ร้อน และโง่เอง เพราะฝ่ายหญิงโกหกทุกเรื่อง บอกว่ามีการเซ็นยินยอมให้เอาลูกที่ตายไปเผา โดยที่ตนไม่ทราบเรื่องทั้งที่ตนเป็นพ่อ อีกทั้งทุกคนในที่นี้ถูกหลอกหมด รวมไปถึงแม่ภรรยาด้วย วันที่นัดมาคลอดตนก็เข้า รพ. ให้น้ำเกลือ ผู้หญิงเองส่งรูปมาให้ดู ตนเองก็เห่อลูก ดีใจซื้อมอเตอร์ไซค์ไว้รอ ไม่คิดว่าจะหลอกกัน 9 เดือน"