“ษิทรา” แฉ “พ.ต.ท.” ไม่ธรรมดา! เขาคือตัวบงการเรื่องหวย 30 ล้านตัวจริง!!

นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา เปิดเผยผ่านรายการถามตรงๆ กับจอมขวัญ ว่า คาดว่าการแถลงข่าวในวันนี้ของผบ.ตร.เรื่องสลากกินแบ่งรัฐบาล 30 ล้านว่าใครเป็นเจ้าของ ผลคดีสอบไปแล้วก็ชี้เป้าไปแล้ว

ทั้งนี้ ยังเหลือตอนที่ 2 คือภาคเจ้าหน้าที่รัฐมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มกาญจนบุรี และกลุ่มภาค 7 ซึ่งของกาญจนบุรี ชัดว่ามีการเปลี่ยนถ้อยคำ การเรียกผู้เกี่ยวข้องไปพบ ส่วนกลุ่มที่ 2 หากให้วิเคราะห์จะพบว่า ทางตำรวจกองปราบ กองบัญชาการสอบสวนกลางได้ส่งข้อมูลไปหมดแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่กลับเพิ่มพยาน หรือพยานงอกขึ้นมา

"มันชัดตรงที่เราเห็นเอกสารของเขา เปลี่ยนวันที่ เปลี่ยนแปลงถ้อยคำ ซึ่งที่ผมเคยอธิบายว่าถ้าพนักงานสอบสวนแก้วันที่ย้อนกลับไปเปลี่ยนแปลงถ้อยคำ ไม่ใช่พนักงานสอบสวนผิดคนเดียว คนที่ลงชื่อรับรองก็ผิดด้วย ทำไมพนักงานสอบสวนไปเปลี่ยนให้มันกลมกลืน ใครเป็นคนสั่ง มันก็ต้องโดนเป็นหาง ซึ่งตอนที่ 2 ของเรื่องนี้จะอยู่ตรงนี้ เอ๊ะ ภาค 7 จะเว้นไปได้อย่างไร เพราะภาค 7 ไปได้อย่างไร มีคนมาเพิ่ม เหมือนมีคนจงใจหาคนมาใส่ ตกแต่ง ต่อเติม"

อย่างไรก็ตาม การสอบสวนเสร็จตั้งแต่ครั้งแรก หากเราอ่านกลายเป็นว่า 8 ธันวาคม 2560 รองผู้กำกับฯ ไปหาศาลเพื่อปรึกษา ผมบอกได้เลยว่าเป็นไปไม่ได้ที่ศาลจะให้คำปรึกษาพนักงานสอบสวน กับผมก็ไม่ให้คำปรึกษา เพราะยังอยู่ในชั้นพิจารณา นอกจากนี้ยังมีคนชื่อกุ้ง ก็มาพบกับรองผู้กำกับฯ ระหว่างที่รอศาล และเขาก็บอกว่าเห็น

"ตรงนี้ผิดธรรมชาติ ไม่ค่อยมีหรอกครับ ที่รองผู้กำกับจะไปศาล เพราะเขาไปเหลือกระจิ๊ดเดียว ตำรวจสภ.เมืองกาญจน์ ไปศาลทุกวันเพราะต้องนำคนไปฝากขัง ถ้าน้องกุ้งรู้ทำไมไม่บอกตำรวจตั้งแต่ทีแรก"

ทางด้าน ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ทนายความ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ในคดี หวย 30 ล้าน กล่าวว่า ตอนนั้นสำนวนอยู่ที่กาญจนบุรี ภาคก็ดึงสำนวนมาที่ภาค และมีการตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ เราจึงไปร้องกองปราบ ซึ่งตอนนั้นสำนวนยังไม่ได้โอนมาที่กองปราบ มันอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวกัน พอกองปราบรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จ ก็ส่งมายังภาค 7 โดยกองปราบส่งหลักฐานที่สำคัญ มีการนั่งฟังคลิป เจ้าหน้าที่กองปราบ และตำรวจภาค 7

ทั้งนี้ การเพิ่มเรื่องพยานต่างๆ ผมคาดว่าน่าจะมาอยู่ตอนภาค 7 ก็ต้องดูว่าตำรวจที่ภาค 7 เกี่ยวข้องไหม วันแถลงพอจำได้ว่า นายแผน เห็นลุงจรูญก้มเก็บหวยได้ ต่อมา นายแผน บอกว่าไม่ได้พูดแบบนี้ ล่าสุดตำรวจกองปราบได้สอบคนที่อ้างว่าขึ้นไปหาศาล และคนที่ถูกไปหาก็ถูกสอบแล้ว

นายษิทรา กล่าวอีกว่า เรื่องคดีของพล.ต.ต.นั้น ถ้าเป็นสมัยก่อนตัวใหญ่จะรอด แต่มาสมัยนี้คนที่จะโดนจริงๆ คือตัวใหญ่ ซึ่งเขาตอนนี้ก็อยู่ไม่เป็นสุข ไปหาคนโน้นคนนี้ให้ช่วย เชื่อว่าท่านฐิติราช ไม่เห็นกับพวกพ้อง และท่านจะดำเนินคดีกับคนนี้ให้ได้

ส่วนตำรวจอีก 2 คนคือ ร.ต.อ.กับ พ.ต.ท.นั้น ในส่วนร.ต.อ.ผมไม่ติดใจอะไรเลย เพราะตั้งแต่ต้นเขาก็ไม่ได้อยากทำ แต่เพราะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา แต่ พ.ต.ท.คนนี้เป็นคนบงการทุกอย่าง ไปคุยกับคนโน้น คนนี้ที ไปปรึกษาศาลอีก เป็นคนวางแผนเลย