จิมมี่พ้อขอย้ายจว.ถ้าคนคอนไม่รักปมขัดแย้งนักธุรกิจดัง
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ จิมมี่พ้อขอย้ายจว.ถ้าคนคอนไม่รักปมขัดแย้งนักธุรกิจดัง
ในเฟซบุ๊ก @เสนอ ผันแปรจิตร ซึ่งเป็นเฟซฯของ เสนอ ผันแปรจิตร นักธุรกิจชื่อดังเจ้าของกิจการร้าน "แดรี่ฮัท"หลายสาขาในนครศรีธรรมราช ได้โพสต์ภาพและข้อความต่อเนื่อง 2 - 3 วัน ทำให้มีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นมากมาย โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีการโพสต์ภาพขณะที่นายเสนอ เข้าไปพบ นายจำเริญ ทิพำญพงษ์ธาดา ผวจ.นครศรีธรรมราช และพล.ต.ต.วัยไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พร้อมแคปชั่นว่า
"สวรรค์มีตาเทวดามีจริงขอกราบขอบพระคุณท่านผวจ. ท่านจำเริญ ทิพญพงค์ธาดา และผบก.ภ.จว. พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ที่ให้ความเมตตารับเรื่องร้องเรียนขอกระผมและรับฟังเหตุผลของกระผม และบอกให้ผมอโหสิกรรมให้กับคนที่กระทำกับกระผม ถ้าไม่ได้ท่านทั้งสอง ไม่รู้ว่าผมจะมีชีวิตรอดหรือไม่ ผมขออโหสิกรรมให้กับคนที่ป่วย และคิดจะทำร้ายผมก็แล้วกันนะครับ กราบขอบพระคุณครับ"
"สวรรค์มีตาเทวดามีจริงขอกราบขอบพระคุณท่านผวจ. ท่านจำเริญ ทิพญพงค์ธาดา และผบก.ภ.จว. พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ที่ให้ความเมตตารับเรื่องร้องเรียนขอกระผมและรับฟังเหตุผลของกระผม และบอกให้ผมอโหสิกรรมให้กับคนที่กระทำกับกระผม ถ้าไม่ได้ท่านทั้งสอง ไม่รู้ว่าผมจะมีชีวิตรอดหรือไม่ ผมขออโหสิกรรมให้กับคนที่ป่วย และคิดจะทำร้ายผมก็แล้วกันนะครับ กราบขอบพระคุณครับ"
ขณะที่ก่อนหน้านี้ 1 วันคือวันที่ 6 มี.ค. นายเสนอได้โพสต์ภาพบุคคลหนึ่ง โดยแต่งภาพด้านบนเป็นรูปหัวกะโหลกปิดบังใบหน้าที่แท้จริงของคนในภาพเอาไว้ พร้อมข้อความว่า
"ผม..นายเสนอ ผันแปรจิตร มีเจ้าของธุรกิจรายใหญ่ของเมืองคอนได้ดูถูกเหยียดหยามว่าผมมันเป็นขยะ ผมคนนี้แหละจะเป็นขยะเผาไหม้เจ้าของธุรกิจคนนี้ที่มีคนชื่นชมเคารพให้ตายในกองไฟ ผมจะกระชากหน้ากากมาให้ชาวนครศรีธรรมราชรู้ภูมิหลังคนชั่วช้าคนนี้ไห้ดู"
เช่นเดียวกับวันที่ 5 มี.ค. นายเสนอได้โพสต์ภาพตัวเองหลายภาพ พร้อมข้อความว่า
"ความโกรธ ความเกลียด ความเคียดแค้น ความอาฆาตพยาบาทต่อคนอื่นๆ ไม่เคยทำให้ใครมีความสุข มีแต่นำความทุกข์เข้ามาให้ตัวเองตลอดเวลา คิดว่าเมื่อไหร่เขาคนนั้นจะตามมาแก้แค้นล้างแค้นทำให้ชีวิตไม่มีความสุข ทุกข์อยู่ตลอดเวลา แค้นนี้ต้องจดจำไว้ตลอดไป สิบปียี่สิบปีสามสิบปีก็ยังไม่สาย สามารถจัดการได้ตลอดไป จำไว้ใครทำอะไรกับผมไว้จะได้รับผลกรรม ธรณีนี่นี้เป็นพยาน ผมก็สิทธิ์มีอาจารย์เหมือนกัน ในโลกนี้ไม่มีใครใหญ่กว่าโลงจำใส่กะลาเอาไว้"
"ผม..นายเสนอ ผันแปรจิตร มีเจ้าของธุรกิจรายใหญ่ของเมืองคอนได้ดูถูกเหยียดหยามว่าผมมันเป็นขยะ ผมคนนี้แหละจะเป็นขยะเผาไหม้เจ้าของธุรกิจคนนี้ที่มีคนชื่นชมเคารพให้ตายในกองไฟ ผมจะกระชากหน้ากากมาให้ชาวนครศรีธรรมราชรู้ภูมิหลังคนชั่วช้าคนนี้ไห้ดู"
เช่นเดียวกับวันที่ 5 มี.ค. นายเสนอได้โพสต์ภาพตัวเองหลายภาพ พร้อมข้อความว่า
"ความโกรธ ความเกลียด ความเคียดแค้น ความอาฆาตพยาบาทต่อคนอื่นๆ ไม่เคยทำให้ใครมีความสุข มีแต่นำความทุกข์เข้ามาให้ตัวเองตลอดเวลา คิดว่าเมื่อไหร่เขาคนนั้นจะตามมาแก้แค้นล้างแค้นทำให้ชีวิตไม่มีความสุข ทุกข์อยู่ตลอดเวลา แค้นนี้ต้องจดจำไว้ตลอดไป สิบปียี่สิบปีสามสิบปีก็ยังไม่สาย สามารถจัดการได้ตลอดไป จำไว้ใครทำอะไรกับผมไว้จะได้รับผลกรรม ธรณีนี่นี้เป็นพยาน ผมก็สิทธิ์มีอาจารย์เหมือนกัน ในโลกนี้ไม่มีใครใหญ่กว่าโลงจำใส่กะลาเอาไว้"
โดยผู้คนจำนวนมากเข้าไปแสดงความคิดเห็นในเฟซฯดังกล่าว แต่ที่น่าสนใจคือ 1 ในนั้นมีผู้ใช้เฟซฯชื่อ @Jimmy Chawala ซึ่งก็คือ นายจิมมี ชวาลา มหาเศรษฐีใจบุญ เจ้าของกิจการร้าน "จิมมีคลังผ้า" ผู้บริจาคเงินในนามชาวนครศรีธรรมราช 16 ล้านบาท ให้กับโครงการ"ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ"ของร็อกเกอร์สตาร์ ตูน บอดี้สแลม ก็เข้าไปวิพากษ์วิจารณ์รวมอยู่ด้วย
ซึ่งข้อความที่เขียนนั้นมีลักษณะคล้ายเป็นการตอบโต้ข้อความของนายเสนอ ทำให้นายเสนอโพสต์สวนกลับไปอีกว่า
"ท่านบังคับให้ผมกราบตีน และท่านให้มือปืนเอาปืนจี้หัวผม"
ในขณะที่นายจิมมี่ก็โพตส์ตอกอย่างดุเดือดเช่นกันว่า
"ผมจะไม่ให้อภัยโดยเด็ดขาดถ้ายังเหิมเกริมและยโสโอหัง" และ "ล้มเหลวทางธุรกิจแล้วมาพาลกับผม (ถึงในร้านผม)แล้ววันนี้คุณเสนอจะขู่ผมและครอบครัวหรือ" รวมไปถึงข้อความว่า "ขอให้ปรับปรุงตัว แก้ไขตัวเองเถอะครับคุณเสนอ เลิกเมา เลิกเจ้าชู้และข่มเหงใจทั้งสตรี บุรุษและผู้อื่น อายุก็มากขึ้น ฉะนั้นคุณเสนอหันมาดูแลเอาใจใส่ธุรกิจของตัวเองจะดีกว่านะครับ เวลาไม่คอยใครครับ"...
ซึ่งข้อความที่เขียนนั้นมีลักษณะคล้ายเป็นการตอบโต้ข้อความของนายเสนอ ทำให้นายเสนอโพสต์สวนกลับไปอีกว่า
"ท่านบังคับให้ผมกราบตีน และท่านให้มือปืนเอาปืนจี้หัวผม"
ในขณะที่นายจิมมี่ก็โพตส์ตอกอย่างดุเดือดเช่นกันว่า
"ผมจะไม่ให้อภัยโดยเด็ดขาดถ้ายังเหิมเกริมและยโสโอหัง" และ "ล้มเหลวทางธุรกิจแล้วมาพาลกับผม (ถึงในร้านผม)แล้ววันนี้คุณเสนอจะขู่ผมและครอบครัวหรือ" รวมไปถึงข้อความว่า "ขอให้ปรับปรุงตัว แก้ไขตัวเองเถอะครับคุณเสนอ เลิกเมา เลิกเจ้าชู้และข่มเหงใจทั้งสตรี บุรุษและผู้อื่น อายุก็มากขึ้น ฉะนั้นคุณเสนอหันมาดูแลเอาใจใส่ธุรกิจของตัวเองจะดีกว่านะครับ เวลาไม่คอยใครครับ"...
ต่อมา นายจิมมี่ ชวาลา ได้ออกมาเปิดเผยอ้างว่า นายเสนอมีปัญหาธุรกิจล้มเหลว เคยเข้ามาขอคำแนะนำ ซึ่งตนก็แนะนำไปว่า นายเสนอจะต้องอยู่ในร้าน ไม่ควรไปปรากฏตัวตามร้านอาหารต่างๆ ดื่มเหล้าเมามายขึ้นเวทีร้องเพลง ลูกค้าและคนทั่วไปเขาจะไม่นับถือ จะต้องอยู่บริหารจัดการร้านของตัวเอง นอกจากนั้นยังเอาโฉนดที่ดินมาขอความช่วยเหลือ แต่มันไม่ใช่หน้าที่ตนจึงปฏิเสธไป ที่ผ่านมาให้เกียรติเขามาตลอด แต่เขากลับไม่เคยให้เกียรติเลย สร้างภาพทำให้คนทั่วไปมองตนในภาพไม่ดีต่างๆนานา
"เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 3 มี.ค. เบียร์ยี่ห้อดังได้จัดคอนเสิร์ตใหญ่ที่สนามลีวัฒนา ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยมีตูน บอดี้สแลม โปเตโต้ ดา เอ็นโดร์ฟิน มาร้องเพลง ผู้จัดก็เชิญผมไปด้วย เพราะเคยบริจาคเงินให้ตูน มีผู้คนมาดื่มบียร์เต้นกันมากมาย และผมไปเห็นนายเสนออยู่ในนั้นด้วย พอเขาเห็นผมก็รีบเข้ามาหา พร้อมกับพูดจาเสียงดังแบบเมามาย ก่อนจะขอถ่ายรูปกับผมและเอาไปโพสต์ระบุข้อความไม่เหมาะสม ในภาพติดกระป๋องเบียร์ไปด้วย ทำให้คนวิจารณ์ผมในทางลบ ดูแล้วมันไม่ดีเลย มันเสียหายมากๆ จึงโทรศัพท์ไปต่อว่าคุณเสนอ"
"เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 3 มี.ค. เบียร์ยี่ห้อดังได้จัดคอนเสิร์ตใหญ่ที่สนามลีวัฒนา ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยมีตูน บอดี้สแลม โปเตโต้ ดา เอ็นโดร์ฟิน มาร้องเพลง ผู้จัดก็เชิญผมไปด้วย เพราะเคยบริจาคเงินให้ตูน มีผู้คนมาดื่มบียร์เต้นกันมากมาย และผมไปเห็นนายเสนออยู่ในนั้นด้วย พอเขาเห็นผมก็รีบเข้ามาหา พร้อมกับพูดจาเสียงดังแบบเมามาย ก่อนจะขอถ่ายรูปกับผมและเอาไปโพสต์ระบุข้อความไม่เหมาะสม ในภาพติดกระป๋องเบียร์ไปด้วย ทำให้คนวิจารณ์ผมในทางลบ ดูแล้วมันไม่ดีเลย มันเสียหายมากๆ จึงโทรศัพท์ไปต่อว่าคุณเสนอ"
นายจิมมี่ กล่าวอีกว่า "จากนั้นนายเสนอได้ลบโพสต์ออกและมาพบกับผมที่ร้าน "จิมมี่" ตรงสี่แยกท่าวัง แทนที่เขาจะฟังผมพูด คุณเสนอกลับสั่งสอนผมตำหนิผมเสียๆหายๆ คุณเสนอมีสิทธิ์อะไรที่จะมาสั่งสอนผม ทั้งๆที่ตัวเขาเป็นฝ่ายก่อเหตุให้ผมเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ทำให้ผมไม่พอใจกระทั่งเกิดการโต้เถียง ผมจึงกดเรียกพนักงาน 2 คน ให้เข้ามาตบปากเขา และบอกให้เขากราบขอโทษ พนักงานผมจึงเข้าไปกระชากคอเสื้อทันที แต่ก็ไม่ได้ตบปากตามที่ผมสั่ง ก่อนที่เขาจะยอมก้มกราบ ผมจึงไล่ให้ออกจากห้องไป"
มหาเศรษฐีคลังผ้า ย้ำอีกว่า "ที่อ้างว่าผมให้มือปืนชักปืนจี้หัวนั้นไม่เป็นความจริง แต่เชื่อว่าทำไปเพราะต้องการจะทำลายผม จากนั้นเขาก็ไม่สำนึกเข้าไปร้องเรียนกับท่านผู้ว่าฯ และท่านผู้การฯ ผมก็เครียดเนื่องจากทั้ง 2 ท่านเป็นผู้ใหญ่พอที่จะรู้ว่าใครเป้นอย่างไร ถ้าหลังจากนี้มีการเรียกผมไปเคลียร์กับคุณเสนอต่อหน้าท่านผู้ว่าฯและท่านผู้การฯ ผมจะตบปากเขาเพื่อสั่งสอนทันที มันเหลือทนแล้วจริงๆ ผมรักคนนครศรีธรรมราชที่สุด พวกเขาคือครอบครัวผม ถ้าวันหนึ่งพวกเขาไม่ต้องการ ผมก็จะไปอยู่จังหวัดอื่นแทน และจะไปด้วยความเสียใจที่สุด"...
มหาเศรษฐีคลังผ้า ย้ำอีกว่า "ที่อ้างว่าผมให้มือปืนชักปืนจี้หัวนั้นไม่เป็นความจริง แต่เชื่อว่าทำไปเพราะต้องการจะทำลายผม จากนั้นเขาก็ไม่สำนึกเข้าไปร้องเรียนกับท่านผู้ว่าฯ และท่านผู้การฯ ผมก็เครียดเนื่องจากทั้ง 2 ท่านเป็นผู้ใหญ่พอที่จะรู้ว่าใครเป้นอย่างไร ถ้าหลังจากนี้มีการเรียกผมไปเคลียร์กับคุณเสนอต่อหน้าท่านผู้ว่าฯและท่านผู้การฯ ผมจะตบปากเขาเพื่อสั่งสอนทันที มันเหลือทนแล้วจริงๆ ผมรักคนนครศรีธรรมราชที่สุด พวกเขาคือครอบครัวผม ถ้าวันหนึ่งพวกเขาไม่ต้องการ ผมก็จะไปอยู่จังหวัดอื่นแทน และจะไปด้วยความเสียใจที่สุด"...
Cr::: dailynews.co.th
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น