โดยเรื่องราวที่ถูกเผยแพร่ไว้ คือ เจ้าจ๋อตัวนี้ ชื่อ มะลิ และอยู่กับครอบครัวนี้มาตั้งแต่ยังไม่ลืมตา เพราะแม่ของเจ้าจ๋อโดนรถชน เลยเก็บมาเลี้ยง นอนด้วยกันทุกคืน กินนมจากขวดเหมือนเด็ก กลายเป็นที่รักของคนในบ้าน ไม่เคยทำร้ายหรือกัดใคร โดยวันหนึ่งผู้เลี้ยงสงสาร เพราะมะลิต้องอยู่ลำพัง ไม่มีเพื่อนเล่นเป็นลิง จึงเอาไปให้สวนสัตว์ลองปรับตัว ผู้รับไปเลี้ยงรับปากว่าจะดูแลอย่างดี แต่หลังจากรับไป 2 เดือน เจ้ามะลิปรับตัวไม่ได้ กินไม่ได้ ตรอมใจกัดหางตัวเองจนขาด ครอบครัวนี้จึงไปร้องขอมะลิคืนแต่ทางสวนสัตว์ไม่ยอมให้
วันที่ 7 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงบริเวณศูนย์อนุบาลสัตว์ป่า ของมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พบกับนายเอ็ดวิน วีค เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว ได้นำไปดูเจ้าลิงที่ชื่อมะลิ ซึ่งเจ้าลิงมะลิยังได้เดินวิ่งอยู่ในกรงตามปกติ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อเจ้าของลิงตัวดังกล่าวให้เดินทางมาดูด้วยเพื่อที่จะอธิบายสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในการเลี้ยง ต่อมา นางเฉลา บุตรงูเหลือม อายุ45ปี ชาวบ้านท่าขาม ต.ท่าคอย อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พร้อมญาติๆ ได้เดินทางมาถึงและพบพูดคุยกับนายเอ็ดวิน วีค ถึงการดูแลและนิสัยลิงที่ชื่อ มะลิ
นายเอ็ดวิน วีค เผยว่า นางเฉลา ได้มีความประสงค์มอบลิงมะลิ ให้กับทางมูลนิธิดูแล เพราะเห็นว่าน่าจะส่งลิงมะลิกลับคืนสู่ป่าตามธรรชาติมากกว่าจะให้อยู่ร่วมกันกับมนุษย์อีกทั้งลิงมะลิเริ่มโตขึ้นบางครั้งมักมีอารมณ์โมโหดุร้าย แต่ระหว่างที่ลิงมะลิอยู่ในความคุ้มครองของมูลนิธิ ทางเจ้าหน้าที่กำลังอนุบาลปรับเปลี่ยนลิงมะลิให้เปลี่ยนพฤติกรรมเข้ากับลิงตัวอื่นๆ แต่เจ้าของกลับแอบเข้ามาหาลิงมะลิพร้อมกับนำอาหารชนิดเดียวกับที่เคยเลี้ยงไว้มาป้อนจนทำให้ลิงตัวอื่นแย่งชิงอาหารจนกระทั่งถูกกัดจนหางขาด แต่เจ้าของคิดว่าทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถดูแลลิงมะลิได้ดีกว่าตน จึงอยากได้ลิงมะลิคืน
แต่ทางมูลนิธิไม่สามารถส่งคืนกลับให้ได้เพราะได้ส่งรายงานการรับสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในความอนุบาลต่อสำนักพื้นที่อนุรักษ์ที่3สาขาเพชรบุรีไว้แล้ว หากมอบกลับให้กลับเจ้าของทางมูลนิธิ จะมีความผิดตามไปด้วย และได้นำลิงมะลิออกจากกรงอนุบาลมายืนยันให้ดูว่า ปัจจุบันลิงมะลิ ไม่ได้มีอาการเหงาซึมแต่อย่างใด มีพฤติกรรมร่าเริงเเจ่มใส ขี้อ้อนขี้ประจบ และสามารถกินอาหารตามที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการทุกอย่าง
นอกจากนั้นสัตวแพทย์ประจำมูลนิธิอยู่ระหว่างการให้วัคซีนเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บและจากการตรวจพบว่าลิงมะลิมีน้ำตาลในเส้นเลือดผิดปกติ เนื่องจากเจ้าของคงเลี้ยงลิงมะลิแบบเลี้ยงลูกด้วยการป้อนขนม นม เนย ซึ่งเป็นการเลี้ยงสัตว์ป่าอย่างผิดวิธี ขอยืนยันว่าทางมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าให้ความดูแลลิงมะลิตามหลักขั้นตอนของการอนุบาลสัตว์ป่าเพื่อคืนกลับสู่ธรรมชาติอย่างดีที่สุด
แต่ที่ไม่สามารถส่งมอบคืนได้เพราะมันขัดกับกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่า เพราะลิงคือสัตว์ป่าคุ้มครองอีกชนิดหนึ่ง และจะไม่ถือโทษโกรธเคืองลูกสาวของเจ้าของลิงมะลิ ที่นำไปโพสต์จนสร้างความเสียหายให้กับมูลนิธิ เพราะตนเข้าใจหัวอกของคนที่มีความผูกพันกับลิงมะลิ แต่อยากให้ผู้ที่เข้าไปคอมเมนต์ได้เข้าใจเจตนารมณ์ของมูลนิธิด้วย