เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ร.ต.ท.จรูญ วิมูล กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไรที่คู่กรณียังไม่ยอมรับสารภาพ เพราะถือเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ แต่ตนก็พร้อมที่จะไปต่อสู้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลเช่นกัน โดยในเดือนพฤษภาคม 2561 ที่จะเริ่มต้นสอบพยานในคดีแพ่งที่ตนเป็นฝ่ายถูกครูปรีชาฟ้องนั้น ทางตนและทีมทนายได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้อย่างเต็มที่
ร.ต.ท.จรูญกล่าวว่า โดยได้มีการยื่นบัญชีพยานเพิ่มเข้าไปอีก 15 อันดับ โดยมีทั้งที่เป็นพยานบุคคลและพยานหลักฐาน ซึ่งส่วนที่สำคัญๆก็มีทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญทางด้านฟิสิกส์ ที่จะเข้ามาอธิบายถึงคำกล่าวอ้างเรื่องการทำลอตเตอรี่หล่นหายของครูปรีชา ซึ่งตนเชื่อว่าน่าจะช่วยลบล้างคำกล่าวอ้างและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กับตนเองได้
ร.ต.ท.จรูญกล่าวว่า นอกจากนี้ ในส่วนของพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงต่างๆที่เริ่มปรากฏออกมาตามสื่อหลายชนิด น่าจะช่วยยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเองได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของคลิปเสียงที่เป็นการสนทนาระหว่างชายคนหนึ่งที่คล้ายครูปรีชาสนทนากับหญิงคนหนึ่งที่ชื่อเจ๊เซี๊ยม โดยมีการกล่าวอ้างถึงบุคคล2 คนที่ตนและภรรยารู้จักดีในพื้นที่อำเภอบ่อพลอย ว่าเป็นผู้ให้ข้อมูลยืนยันว่าภรรยาของตนเป็นคนเก็บลอตเตอรี่ชุดที่ถูกรางวัลได้
ร.ต.ท.จรูญกล่าวว่า เมื่อมีการเผยแพร่คลิปดังกล่าวออกไป ปรากฏว่าบุคคลสองคนที่ถูกอ้างชื่อในคลิปได้ออกมาแสดงตัวพร้อมปฎิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้พูดเรื่องราวตามที่ถูกกล่าวอ้างในคลิปแต่อย่างใด โดยได้ไปลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานเอาไว้ด้วย
ด้านนางลาวัลย์ วิมูล ภรรยาของลุงจรูญ กล่าวว่า ผู้หญิงชื่อเซี๊ยมที่เป็นเจ้าของเสียงสนทนาในคลิป รวมถึงผู้ที่ถูกกล่าวอ้างชื่ออีกสองคนนั้น ล้วนเป็นคนที่ตนรู้จักคุ้นเคย โดยเฉพาะคนชื่อเซี๊ยม ที่รู้จักกันมากว่า 30 ปี ซึ่งในวันที่ตนรู้ว่าสามีถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ก็ได้โทรไปเล่าให้คนชื่อเซี๊ยมฟังเพียงคนเดียว และก็เล่าเพียงว่าสามีของตนไปซื้อลอตเตอรี่และถูกรางวัล 30 ล้านบาท โดยไม่ได้เล่าให้อีกสองคนที่ถูกกล่าวอ้างฟังแต่อย่างใด
นางลาวัลย์กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ตนยอมรับว่าสงสัยว่าเพราะเหตุใดเพื่อนที่รู้จักกันมากว่า 30 ปีจึงมาใส่ร้ายตนเช่นนี้ ที่ผ่านมา ตนพยายามโทรศัพท์ติดต่อไปหาหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้ เขาบล็อกหมดเฃลย ทั้งบล็อกไลน์บล็อกเฟซบุ๊ค จึงยังไม่ได้พูดคุยสอบถามถึงสาเหตุที่เจ๊เซี๊ยมมาพูดกล่าวอ้างใส่ร้ายตน แต่บอกว่าโกรธก็โกรธนะ แต่ก็สงสารเขา อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการฟ้องร้องดำเนินคดีกับเจ๊เซี๊ยมนั้น คงจะต้องขอปรึกษากับทนายความอีกครั้งว่าจะดำเนินการหรือไม่ต่อไป