แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561 นายณรงค์ชัย ได้เดินทางมาพบ ร.ต.อ.สุมิตร บุญยะนิจ พนักงานสอบสวนพร้อมกับได้ให้ปากคำเพิ่มเติมว่า หลังจากตนได้มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2561 ปรากฏว่าได้ไปตรวจสอบกับคำนิยามของคำว่าสัตว์ตามมาตรา 3 ให้หมายความรวมถึงสัตว์ที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติตามที่รัฐมนตรีกำหนด และได้ตรวจสอบแล้วปรากฏว่ารัฐมนตรียังมิได้ประกาศกำหนดสัตว์ตามธรรมชาติว่าต้องเป็นสัตว์ชนิดใดจึงขอถอนคำร้องทุกข์ไปตามระเบียบนั้น
ด้วยเหตุนี้จึงถือว่าการกระทำของ ร.ต.อ.สุมิตร พนักงานสอบสวน เป็นการบกพร่องต่อหน้าที่ เนื่องจากได้มีการรับคำร้องโดยไม่ตรวจสอบข้อกฎหมายให้แน่ชัดว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมายหรือไม่
ฉะนั้นอาศัยอำนาจแห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พุทธศักราช 2547 มาตรา 87 ประกอบกับกฎ ก.ตร. ว่าด้วยอำนาจการลงโทษข้าราชการตำรวจอัตราและการลงโทษภาคทัณฑ์ ทัณฑกรรม เกาะพยามกักขังหรือตัดเงินเดือนพุทธศักราช 2547 จึงให้ลงโทษภาคทัณฑ์ ร.ต.อ.สุมิตร บุญยะนิจ
ซึ่งผู้ที่ถูกลงโทษตามคำสั่งนี้มีสิทธิ์อุทธรณ์ต่อผู้บังคับบัญชา หรือ ก.ตร. และหากประสงค์จะฟ้องโต้แย้งคำสั่งหรือคำวินิจฉัยอุทธรณ์นี้ให้ทำคำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาลปกครอง ภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้ง หรือรับทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ ได้รายงานกรณีดังกล่าวให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. (มค.) ทราบแล้ว