ด้าน น.ส.ทองประกาย กล่าวว่า ที่ทำไปเพราะเครียดมาก ไม่อยากอยู่คนเดียว ทุกครั้งที่อยู่คนเดียวเครียดทั้งเรื่องเงิน เรื่องลูก วันที่ไปเที่ยววันนั้น ไม่ได้เมา ไม่ได้อัพยา เกิดความเครียดเรื่องเงิน เรื่องลูก ยายเข้าโรงพยาบาล แม่ต้องไปดูแลยาย ไม่มีคนดูแลลูก เพราะเราต้องทำงาน เลยกรีดแขนตัวเองเพื่อผ่อนคลายความเครียด ตอนนั้นหาทางออกไม่ได้ ตอนนี้ก็ยิ่งเครียดกว่าเดิม
เมื่อถามว่า เราติดหนี้ด้วยหรือไม่ เก๋ กล่าวว่า เราติดหนี้เพื่อน ส่วนที่ไปแจ้งตำรวจ เพราะเพื่อนเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เลยกลายเป็นเรื่องเอิกเริกบานปลาย เพราะเราไม่ได้บอกเพื่อน ส่วนบาดแผลใช้มีดโกนกรีด เพิ่งทำเป็นครั้งแรก
เมื่อถามว่า มีผู้เสียหายร้องเรียนเรื่องโดนเบี้ยวเงินหลายราย เก๋ กล่าวว่า ไม่จริงตอนไปเที่ยวล่าสุดหมดไป 14,000 บาท ก็จ่ายสดไม่เคยติด โดยเวลาเราไป ไปกับเพื่อน ก็ช่วยๆ กันจ่าย
"ตอนนั้นไม่รู้ว่าตัวเองคิดอะไรอยู่ คิดไม่เยอะ ไม่คิดถึงผลกระทบที่จะตามมาทีหลัง ไม่ได้เรียกร้องความสนใจ สิ่งที่พูดออกไปขอโทษพี่แท็กซี่ทุกคน ขอโทษทั้งเจ้าพนักงานตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดี ตอนนี้สำนึกผิดและยอมรับผิด อยากขอโทษสื่อโลกออนไลน์ พ่อแม่ เพื่อนที่อยู่ข้างๆมาตลอด"
ด้านพ.ต.อ.ภาสกร กล่าวว่า กรณีที่น.ส.ทองประกาย จริงความร้องทุกข์ดังกล่าวนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจริง ประกอบกับมีพยานหลักฐานและพยานบุคคล การดำเนินการได้คุยกับน.ส.ทองประกายแล้วก็ให้การยอมรับว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งทางพนักงานสอบสวนสน.ลาดพร้าว จะดำเนินคดีรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อหาแจ้งความเท็จ โทษจำคุก 3 ปี ปรับ 5,000 บาท และนำข้อความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท