ลุ้นหมายจับหวย 30 ล้าน!! สอบ “เจ๊บ้าบิ่น” มาราธอน ชี้หากผิดต้องยอมรับผลการตัดสินใจของตนเอง

จากกรณีคดีหวยอลเวง รางวัล 30 ล้านบาท ที่ตำรวจกำลังตรวจสอบพิสูจน์ความเป็นเจ้าของที่แท้จริงระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ และนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูโรงเรียนเทพมงคลรังสี จ.กาญจนบุรี ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจบช.ภ.7 สอบสวนก่อนระบุว่า นายปรีชาน่าจะเป็นเจ้าของล็อตเตอรี่ที่แท้จริง และเตรียมดำเนินคดีกับร.ต.ท.จรูญ อีกด้วย สุดท้ายผบ.ตร.มีคำสั่งให้บช.ภ.7 โอนคดีมาให้กองบังคับการกองปราบปรามดำเนินการ ก่อนที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะขึ้นศาลแพ่งเผชิญหน้ากันเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา ล่าสุดผบ.ตร.ออกมาระบุว่าคดีนี้ทำเป็นแก๊งแบบครูจอมทรัพย์ อีกทั้งพล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. ระบุเช่นกันว่า รู้แล้วใครคือเจ้าของลอตเตอรี่นั้น

กระทั่งเมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ฐิติราชได้ลงพื้นที่เพื่อสอบปากคำผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 7 ปาก ทั้งฝ่ายของแม่ค้าลอตเตอรี่และเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยในจำนวนนี้ มีนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น รวมอยู่ด้วย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ ได้เดินทางไปเชิญตัวเจ๊บ้าบิ่นที่บ้านพัก ภายในชุมชนเตาปูน เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี โดยได้มีการพูดคุยกับเจ๊บ้าบิ่นประมาณ 30 นาที ก่อนจะมีการเรียกทีมทนายของเจ๊บ้าบิ่นมาที่บ้าน

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวเจ๊บ้าบิ่นพร้อมพี่สาวและทนายความเดินทางไปที่สถานีตำรวจทางหลวง 6 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี โดยในการสอบข้อเท็จจริงได้มีการนำตัวเจ๊พัช แม่ค้าลอตเตอรี่อีกหนึ่งคน รวมถึงพล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ท.ชูวิทย์ เจริญนาค หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหวย 30 ล้าน สภ.เมืองกาญจนบุรี มาสอบข้อเท็จจริงด้วย โดยดำเนินการแยกสอบผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้ง 7 คน เป็นเวลานานกว่า 10 ชั่วโมง

กระทั่งเวลา 20.10 น.ของวันเดียวกัน พล.ต.ท.ฐิติราช ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า การสืบหาข้อเท็จจริงในครั้งนี้ จำเป็นต้องสืบอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนมากที่สุด ทำให้ใช้เวลาในการสอบสวนนาน ซึ่งจนถึงขณะนี้ ขอยืนยันว่า ทางเจ๊บ้าบิ่นยังไม่ได้มีการรับสารภาพตามที่มีการแชร์ข่าวในโลกโซเชียลแต่อย่างใด รวมถึงยังไม่มีพยานคนใดที่กลับคำให้การ ทั้งนี้ การสืบข้อเท็จจริงอาจจะใช้เวลานาน แต่ก็ถือว่าได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์พอสมควร ทำให้เห็นถึงความเชื่อมโยง ระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ผบช.ก. กล่าวต่อว่า ทางเจ้าหน้าที่มีการพูดคุยกับเจ๊บ้าบิ่นพร้อมอธิบายทำความเข้าใจและให้โอกาสกับเจ้าตัว พร้อมซักถามถึงคำให้การของเจ้าตัวซึ่งมีความขัดแย้งกับข้อเท็จจริง แต่จนถึงขณะนี้เจ้าตัวก็ยังยืนยันคำให้การณ์เดิมและไม่มีการรับสารภาพ จึงต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน ซึ่งหากถูกตัดสินว่ามีความผิด ก็จะต้องรับผลในการตัดสินใจของตนเอง ในส่วนของผู้เกี่ยวข้องฝั่งพยานของครูปรีชานั้น ทั้งหมดเป็นพยานบุคคลที่มาให้การ โดยไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใดๆ

พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวอีกว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พยายามสืบหาข้อเท็จจริงอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ใครมีส่วนเกี่ยวข้องมากน้อยเพียงใด เป็นตัวการ เป็นผู้บงการหรือเป็นผู้ที่มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ ซึ่งจะต้องมีการชี้แจงอย่างละเอียดเพื่อให้เกิดความชัดเจน ทั้งนี้ ถือว่าการสอบข้อเท็จจริงในวันนี้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ส่วนจะนำไปสู่การออกหมายจับหรือเชิญใครมาสอบข้อเท็จจริงเพิ่มนั้น คงยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ เพราะต้องรอสอบผู้เกี่ยวข้องทั้ง 7 รายเพิ่มเติมอีก แต่ทางตำรวจขอยืนยันว่าภายในสิ้นเดือน ก.พ.นี้ คดีนี้จะต้องมีความชัดเจนอย่างแน่นอน