พ่อแม่ทิ้งลูก 4 คน ไว้ตามยถากรรม!! พี่คนโต 10 ขวบ รับภาระเลี้ยงน้องๆ กินกล้วยประทังชีวิต!!

สุดอนาถ พ่อแม่ทิ้ง 4 ลูกน้อย อยู่ในบ้านเปลี่ยวกลางป่าตามยถากรรม คนโต 10 ขวบ อยู่ ป.4 ต้องหยุดเรียนมาดูแลน้องๆ ซ้ำคนรองอายุ 8 ขวบ ยังพิการแขนขาลีบ เจ้าหน้าที่ไปเจอถึงกับผงะ กลิ่นอุจจาระหึ่ง ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก นำตัวไปดูแล...

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 ก.พ. 61 นางสาวชนัญชิดา สุดรอด พนักงานเจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็ก บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชุมพร ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบหนูน้อย 4 คนพี่น้อง ในพื้นที่หมู่ 4 ตำบลสองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ถูกพ่อแม่ปล่อยให้อยู่บ้านเพียงลำพัง บางครั้งหนูน้อยจะถูกพ่อแม่ซึ่งมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม นายกิตติ เทพเต็ม นายก อบต.สองพี่น้อง นางพัชรี กิ่งแก้ว รองนายก อบต. นางสาวอรุณี สมบูรณ์ ปลัด อบต. และนางสาว วรัชญา รินทะจะกะ นักจิตวิทยา ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดชุมพร

โดยบ้านหลังดังกล่าวตั้งอยู่หมู่ 4 ตำบลสองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ปลูกอยู่กลางป่า อยู่ห่างจากชายแดนไย-เมียนมา เพียง 1 กม. เป็นบ้านในโครงการบ้านท้องถิ่นไทยเทิดไท้องค์ราชัน 84 ปี ที่ทาง อบต.สองพี่สอง ได้ปลูกสร้างให้กับผู้ยากจนได้อยู่อาศัย

เจ้าหน้าที่พบ ด.ช.เฟิร์ส อายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพี่คนโต กำลังสาละวนเลี้ยงน้องชื่อ ด.ช.เด อายุ 6 ปี และ ด.ญ.ฝ้าย อายุ 4 ปี อยู่ที่หน้าบ้าน ซึ่งทั้งสามคนอยู่ในสภาพสวมเสื้อผ้ามอมแมม เนื้อตัวเหมือนไม่ได้อาบน้ำชำระร่างกายมานานนับเดือน ส่วนภายในบ้านเป็นห้องโถงเล็กๆ พบว่ายังมีมุ้งกางอยู่เต็มห้อง โดยในมุ้งเจ้าหน้าที่ยังพบ ด.ช.วุฒิ อายุ 8 ปี ซึ่งอยู่ในสภาพร่างกายพิการแขนขาลีบ นอนอุจจาระเต็มแพมเพิร์สที่สวมอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันเก็บมุ้งออกเพื่อให้ลมพัดผ่านเอากลิ่นอับ ที่ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งเจือจางไป ก่อนช่วยกันชำระล้างตัวให้สะอาด นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบพบว่า ด.ช.เด วัย 6 ปี บริเวณก้นและเอวมีร่องรอยถูกทำร้ายด้วยของแข็งเป็นแนวยาวหลายแนวอีกด้วย

สอบถาม ด.ช.เฟิร์ส พี่ชายที่ต้องดูแลน้องทั้งสาม บอกกับทางเจ้าหน้าที่ว่า พ่อแม่มักจะไม่ค่อยอยู่บ้าน ทำให้ตนเองซึ่งกำลังเรียนอยู่ระดับชั้นประถมปีที่ 4 ต้องหยุดเรียนเป็นประจำ เพื่อคอยดูแลน้องทั้งที่ร่างกายพิการ และร่างกายปกติเพียงลำพัง โดยจะมีกล้วยวางไว้ให้กินเวลาที่หิว

ด้านนายกิตติ เทพเต็ม นายก อบต.สองพี่น้อง กล่าวว่า สำหรับพ่อแม่ของหนูน้อยทั้ง 4 คน ที่ผ่านมาทางผู้นำท้องที่เคยสืบพบว่ามีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดระดับผู้เสพ จึงได้นำตัวมาทำข้อตกลงให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว และชุมชนได้พยายามช่วยเหลือกันโดยตลอด บ้านหลังที่อาศัยอยู่นี้ก็เช่นกัน ได้ผ่านประชามติจากชุมชนที่ต้องการช่วยเหลือครอบครัวนี้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ที่ต้องอาศัยบ้านที่ผุพังหลังเล็กๆ หลังคาฝาบ้านก็เอาเศษสิ่งของที่เหลือใช้มาบุตีปิดเพื่อกันแดดกันลม

นายกิตติ กล่าวว่าวันนี้ได้มาเห็นสภาพบ้านกับคนที่ได้รับมอบบ้านตามโครงการดังกล่าว ตนเองเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก แทนที่จะดูแลรักษาด้วยความสำนึก แต่กลับปล่อยปละละเลยไม่ใส่ใจ หนำซ้ำยังไม่ดูแลลูกทั้ง 4 คน

ด้าน นางสาวชนัญชิดา สุดรอด พนักงานเจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็ก บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชุมพร กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับการร้องเรียนมา ทางบ้านพักเด็กก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ประสานงานเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องระดมกันมาช่วยเหลือ เพราะเห็นว่าการเลี้ยงบุตรปล่อยปละละเลย ดังนั้นตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 เจ้าหน้าที่มีอำนาจนำตัวเด็กเข้ามารับการคุ้มครองสวัสดิภาพที่บ้านพักเด็กและครอบครัวไว้ก่อน จนกว่าทางพ่อแม่เด็กจะมีความพร้อมกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ จึงค่อยมาแสดงความจำนงรับเด็กไปเลี้ยงดูเองต่อไป