แฉหมดนาทีฆ่าเสือดำ!! จุดพีคกล้าจับเจ้าสัวแสนล้าน เจ้าของเสียงคลิปต่อรองที่แท้คนนี้ (คลิป)
โดย เสือดำที่ถูกฆ่าตาย เจ้าหน้าที่รักมาก เห็นผูกพันกันมานาน เสือดำคู่ผัวเมีย โดยเจอออกมาอาบแดดทุกวัน เจ้าหน้าที่ถึงได้ช็อก เมื่อเปิดหม้อต้มซุป เจอหางเสือดำ เปิดถุงเจอซากเสืออีก จุดที่จนท.โกรธมาก จนไม่กลัวที่จับคนระดับเจ้าสัวเปรมชัย หรือใครก็ตามที่ก่อเหตุ เพราะฆ่าเสือดำที่เจ้าหน้าที่เห็นอยู่แทบทุกวัน
รอยกระสุนที่ยิงเสือดำ ครั้งแรก กระสุนกระจายช่วงตัว ก่อนเสือตะกายหนี ด้วยความเจ็บปวด ยังถูกยิงซ้ำอีก เชื่อว่ามีคนยิงเสือสองคน แล้วเอาไปชำแหละ ลงหม้อต้มซุป โดยบันทึกจับกุมระบุอาวุธที่ยิงเป็นของเจ้าสัว แต่ไม่รู้ใครเป็นคนยิง
โดยที่ตกใจมากๆ เพราะเพิ่งเคยเห็นการกินเสือดำ ซุปหางเสือดำ และยังพบว่าส่วนสะโพกของเสือดำก็หายไปแล้วด้วย
ขณะ ที่บ้านของ นายยงค์ พบว่าบ้านหลังดังกล่าว เนื้อที่ประมาณ 200 ตารางวา มีสุนัขหน้าบ้านประมาณ 5-6 ตัว พบผู้หญิงในบ้าน บอกว่า "ยังไม่พอใจอีกหรอ" ก่อนเดินเข้าบ้านไป ขณะที่ นางแวว (นามสมมติ) เพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียง เปิดเผยว่า นายยงค์ ปลูกบ้านไว้ตั้งแต่ปี 2554 มักจะกลับมาบ้านวันเสาร์ และวันอาทิตย์ ส่วนตัวค่อนข้างสนิทกับครอบครัวนายยงค์ เพราะอุปนิสัยใจคอของครอบครัวนี้เป็นคนดี ลูกชาย และลูกสาวของ นายยงค์ มักจะยกมือไหว้ตนเองเสมอ
"นิสัยของนายยงค์เป็นคนดี รักสัตว์ เพราะที่บ้านนายยงค์ เลี้ยงสุนัขประมาณ 7-8 ตัว เลี้ยงในห้องแอร์ บางครั้งเห็นว่า นายยงค์ ซื้ออาหารไปให้สุนัขจรจัดที่วัด จึงคิดว่า นายยงค์ ไม่น่าจะเป็นคนที่ไปล่า หรือยิงสัตว์ในป่า แต่เรื่องที่โดนจับพร้อมกับนายเปรมชัย นั้นตนไม่ทราบ
ส่วนเรื่องการยิงปืน นางแวว ยอมรับไม่ทราบว่า นายยงค์ ยิงปืนเป็นหรือไม่ เพราะไม่เคยเห็นนายยงค์ พกปืน และยิงปืนมาก่อน เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ ตนรู้สึกสงสาร และอยากให้กำลังใจนายยงค์ เพราะตนรักนายยงค์ เหมือนพี่น้อง ส่วนตัวไม่คิดมาก่อนว่านายยงค์ จะมาเจอเรื่องที่ค่อนข้างหนักแบบนี้"
จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของ นางซุย รสโสดา อายุ 85 ปี ซึ่งเป็นน้าของนายยงค์ โดยนางซุย เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่นายยงค์ จะมาทำงานเป็นพนักงานขับรถที่บริษัทอิตาเลียนไทย นายยงค์เคยเป็นพนักงานขับรถประจำทาง และพนักงานปั๊มน้ำมัน ส่วนเงินเดือน จากการขับรถให้เจ้านาย ที่บริษัทอิตาเลียนไทย รายได้ดีหรือไม่นั้น ตนไม่เคยถาม ทราบเพียงว่า ลูกชายนายยงค์ ได้ไปทำงานที่บริษัทนี้ด้วยเช่นกัน
นางซุย บอกอีกว่า นายยงค์ เป็นคนที่รักสัตว์ ชอบเก็บสุนัขที่โดนรถชนมาเลี้ยง เพราะรู้สึกสงสาร ตอนนี้มีสุนัขที่บ้านนายยงค์ 8 ตัว เมื่อสุนัขป่วยก็จะพาไปหาหมอ และพาสุนัขนอนในห้องแอร์ พร้อมกับจะซื้อลูกชิ้น และตับให้สุนัขกิน
ส่วนที่ร้านขายอาหารตามสั่งแห่งหนึ่ง ย่านบางกรวย ได้พบกับภรรยาของ นายธานี อายุ 56 ปี ซึ่งเป็น 1 ในผู้ต้องหาคดีดังกล่าว โดยภรรยานายธานี กำลังขายอาหารอยู่ ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ยังติดต่อสามีไม่ได้ โดยนายธานี บอกเพียงว่าจะไปทำธุระที่ จ.กาญจนบุรี วันเสาร์ที่ 3 ก.พ. โดยไม่ได้เอาโทรศัพท์มือถือไป จึงไม่สามารถติดต่อได้ มีเพียงบางครั้งที่สามี ติดต่อกลับมา แต่หลังจากเกิดเรื่องนายธานี ได้หายไป ไม่สามารถติดต่อได้เลย
ภรรยานายธานี บอกกับทีมข่าวอีกว่า ปกติสามีจะอยู่ที่บ้าน ค้าขายอาหารตามสั่ง ส่วนตนขายอยู่กับนายธานี และไม่ได้ออกไปไหน จึงไม่ค่อยรู้เรื่อง พร้อมเปิดเผยว่า ตั้งแต่อยู่อยู่อาศัยกับสามี ตนไม่เคยเห็นนายธานี มีปืน หรือเก็บปืนไว้ในบ้าน และไม่เคยเห็นนายธานี เข้าป่า เพิ่งจะมาทราบเรื่องดังกล่าวเป็นครั้งแรก และยืนยันอีกว่า ตนไม่เคยเห็นนายเปรมชัย มาก่อน
อย่างไรก็ตาม ภรรยานายธานี ยอมรับว่า นิสัยของนายธานี คนเป็นคนดี เพื่อนในละแวกใกล้เคียงรักสามี เพราะเป็นคนไม่มีพิษไม่มีภัย