นอกจากนี้ ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.แมว (นามสมมติ) ลูกสาวของนายยงค์ 1 ใน 4 ผู้ต้องหาคดีดังกล่าว เปิดเผยว่า หลังจาก นายยงค์ ได้รับการประกันตัวออกมา ได้กลับมาอยู่บ้าน ที่ จ.ราชบุรี เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ก่อนที่ตำรวจจะเข้ามาตรวจค้นที่บ้าน
น.ส.แมว ยืนยันว่า นางยงค์ พ่อของตนเป็นคนขับรถให้นายเปรมชัย มาประมาณ 30 ปี ปัจจุบันเกษียณแล้ว แต่มีบางครั้งที่นายเปรมชัย จะเรียกใช้ให้ไปขับรถเมื่อต้องเดินทางไกลไปต่างจังหวัด หรือเช่นไปเที่ยวป่าในครั้งนี้ เพราะนายเปรมชัย ไว้ใจพ่อของตน เนื่องจากพ่อมีประสบการณ์ขับรถให้นายเปรมชัย มากว่า 30 ปี
น.ส.แมว บอกอีกว่า พ่อตนไม่ได้สะสมปืน และยิงปืนไม่เป็น ส่วนนายเปรมชัย ถ้ามีวันหยุด ไม่ได้ไปต่างประเทศ จะชอบไปส่องสัตว์เข้าป่า ตั้งแคมป์ และมักจะเข้าป่าช่วงหน้าหนาวที่อากาศเย็นๆ
หลังเกิดเหตุ พ่อตนไม่ได้บอกว่าไปเจอเสือดำได้อย่างไร และยังไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ หลังจากพ่อตกเป็นข่าว ได้มีคนรู้จัก และคนรอบข้าง มาสอบถามเรื่องดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ทำให้ครอบครัวรู้สึกเครียด แต่พ่อของตน ไม่ได้กังวลในเรื่องคดี เพราะมีหลักฐานการตรวจดีเอ็นเอ และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่โดยตลอด
น.ส.แมว กล่าวต่อว่า ขณะนี้ครอบครัวโดนกระแสโจมตีจากโลกโซเชียลอย่างหนัก และขอยืนยันว่า พ่อตนไม่เคยสะสมปืน ยิงปืนไม่เป็น อยากให้สังคมเข้าใจว่าพ่อตนไม่ใช่นายพราน เป็นแค่คนขับรถ ไม่อยากให้เหมารวมว่าพ่อตนเป็นแก๊งเข้าป่าล่าสัตว์ "กระแสโจมตีทางอินเทอร์เน็ต มันบีบคั้นหัวใจคนในครอบครัวตนมาก" ส่วนเรื่องของคดีปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม