ที่เกิดเหตุเป็นถนน 2 เลนรถวิ่งสวนทางกัน พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นสกู๊ปปี้-ไอ สีดำ-ชมพู ทะเบียน ขจข22 กำแพงเพชร ล้มคว่ำอยู่บนพื้นถนนใกล้กันพบศพนางน้ำฝน บุญเต็ม อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 164 ม.1 ต.กระออม อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ และน.ส.เกษรกมล ดำทรัพย์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/7 ม.4 ต.เขาคีริส อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร สภาพนอนคว่ำหน้ากอดกันอยู่บนพื้นถนน ห่างกัน 300 เมตร พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 81-4068 ประจวบคีรีขันธ์ ท้ายพ่วงทะเบียน 81-5767 ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนายสมศักดิ์ ธิบดี อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 621 หมู่ที่ 1 ต.เขาน้อย อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ คนขับยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการสอบถามนายสมศักดิ์ อ้างว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถบรรทุก 18 ล้อคันดังกล่าว มาลงดินลูกรังบริเวณสถานที่ก่อสร้างถ.สายสุขสวัสดิ์-ป้อมพระจุล บริเวณด้านหน้ากรมอู่ทหารเรือป้อมพระจุลจอมเกล้าตั้งแต่เวลา 05.30 น.แล้วเสร็จ ก่อนขับรถไปรับดินลูกรังบริเวณท่าเรือในอ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ระหว่างที่ตนขับรถบรรทุกมาถึงที่เกิดเหตุได้ยินเสียงคล้ายรถจักรยานยนต์ล้มบริเวณข้างรถฝั่งซ้าย ก่อนมีคนตะโกนว่าทับรถจักรยานยนต์ จึงรีบหยุดรถแล้วรีบลงมาดู ก็พบว่าบริเวณล้อหลังลูกพ่วงได้ทับคนขับรถจักรยานยนต์และคนซ้อนท้ายเสียชีวิต จึงรีบโทรศัพท์แจ้งหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยให้รีบมาช่วยเหลือ
จากการสอบสวนของร.ต.ท.ปิยวัฒน์ สันนิฐานเบื้องต้นคาดว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายเป็นครูของโรงเรียนวัดไตรมิตรวรารามสอนอยู่ชั้นมัธยมศึกษา ก่อนเกิดเหตุทั้งคู่ได้ขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้านพักภายในซ.วัดแหลมฟ้าผ่า เพื่อจะไปสอนนักเรียนในโรงเรียนวัดไตรมิตร ถึงที่เกิดเหตุคาดว่าคนขับรถจักรยานยนต์น่าจะพยายามแซงรถบรรทุกพ่วงแต่มาถูกป้ายสัญญาณไฟและเสาติดตั้งกล้องวงจรปิดขวางทางอยู่ จึงตกใจพยายามเบรกเพื่อหยุดรถแต่เสียหลักล้มทำให้ร่างทั้ง 2 คน กระเด็นเข้าไปใต้ท้องรถถูกล้อรถทับร่างจนเสียชีวิตทั้งคู่ดังกล่าว
ทางตำรวจจึงมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่งสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์พร้อมประสานขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุพร้อมนำตัวนายสมศักดิ์ไปสอบสวนเพิ่มเติมและดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป