นายปรเมศวร์ กล่าวต่อว่า เเต่ตนจำได้ว่ามีโทษจำคุกอยู่ ส่วนเรื่องการประกันตัวอยู่ในดุลพินิจของศาล ที่คนบอกว่าวงเงินประกันน้อยไปคงเทียบจากสถานะของผู้ถูกจับมากกว่าสถานะทางข้อหา เพราะถ้าดูสถานะทางข้อหาจะต้องดูอัตตราโทษปรับเเละจำคุก ตรงนี้จึงเป็นความรู้สึกของคนว่าสำหรับคนรวยมหาศาลให้ประกันวงเงินเเค่นี้มันเล็กน้อย
ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีนี้ผู้ถูกกล่าวหามีตำเเหน่งเป็นประธานบริหารบริษัทอิตาเลียนไทยฯ ที่ได้รับสัมปทานจากหน่วยงานให้เป็นผู้รับผิดชอบงานก่อสร้างอุโมงค์-ทางข้ามให้สัตว์ป่าในพื้นที่ป่าหลายที่ตรงนี้ จะมีผลต่อสัญญาทางธุรกิจกับรัฐที่เคยได้สัมปทานมาเเละจะมีปัญหาทางเเพ่งต่อบริษัทหรือไม่ นายปรเมศวร์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องดูว่าการได้สัมปทานตัดถนนที่ผ่านป่าต่างๆที่ว่านี้ ตัวนายเปรมชัยที่ตกเป็นผู้ต้องหาลงไปดำเนินการเองในโครงการหรือไม่ เรื่องนี้จึงต้องเเยกออกจากกัน เพราะหากเป็นรูปเเบบการทำงานของบริษัท ก็เป็นเรื่องของบริษัท เรื่องสัมปทานก็จะเป็นเรื่องของบริษัท
นายปรเมศวร์ กล่าวต่อว่า กับนายเปรมชัยที่มีตำเเหน่งประธานตรงนี้ไม่น่าจะโยงกันได้ เพราะตัวประธานบริหารย่อมสามารถเปลี่ยนตัวได้ เเต่เมื่อมีคดีนี้เเล้วเชื่อว่าเจ้าหน้าที่จะใช้การตรวจสอบมากยิ่งขึ้น อย่างที่เมื่อมีข่าวเรื่องนี้ออกมาหุ้นของบริษัทอิตาเลียนไทยตก หุ้นในต่างประเทศก็ตกด้วย ตนว่าอันนี้เป็นสัญญาณเตือนให้เห็นว่าสังคมตระหนักในเรื่องเหล่านี้ คนที่ทำงานมีฐานะตรงนี้จะต้องอยู่ในธรรมมาภิบาล ในกรอบเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ใครจะทำอะไรต้องคิดหน้าคิดหลัง