เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ล่าสุด (6 กุมภาพันธ์ 2561) นายแสงชัย แหเลิศตระกูล หรือ หมอแสง เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือขออนุญาตเป็นหมอพื้นบ้านหลายครั้งแล้ว แต่ส่งไปเรื่องก็เงียบ ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมา ทำเรื่องไปติดตามผลความคืบหน้า ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า จนวันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา ทางกรมการแพทย์แผนไทยฯ ทำหนังสือขึ้นมาฉบับหนึ่ง ขอรับรองหมอพื้นบ้าน แต่ขอเอกสารเพิ่มอีก จนกระทั่งวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ก็ขอเอกสารเพิ่มเติมอีกเช่นกัน ซึ่งตนให้ครบไปหมดแล้ว สงสัยว่าท่านอธิบดีต้องการอะไร ถ้ากำกวมดึงกันไปมาอย่างนี้ ตนคิดว่าเดือนมีนาคมนี้ จะไม่แจกยาสมุนไพรแล้ว
หมอแสง บอกอีกว่า หากใครอยากได้สูตรยา ตนพร้อมให้ไปจดทะเบียนต่างประเทศ ตนเบื่อกับราชการไทยเหลือเกิน หรือไม่มีงานทำ ตีรวนอยู่อย่างนี้ ฝากบอกอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกด้วยว่าต้องการอะไร ปลัดกระทรวงสาธารณสุขก็รับปากแล้ว หรือกลัวตนเป็นคู่แข่งกับเบญจอำมฤตย์ที่รักษามะเร็ง ตนจะได้หลีกทางให้ แล้วบอกประชาชนไปรับเบญจอำมฤตย์ที่กรมการแพทย์แผนไทยฯ แทน ทั้งนี้ ปกติแล้วหลังวันที่ 20 กุมภาพันธ์ นี้ ตนจะต้องผลิตยา แต่ตอนนี้ตนจะหยุด ส่วนใครอยากได้ยารักษามะเร็งให้ไปรับกับอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ แล้วกัน
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ไม่ใช่ว่ากรมจะไม่รับรอง แต่ยังรอเอกสาร 2 ฉบับ คือ หนังสือรับรองจากประชาชนในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 10 คน และหนังสือรับรองจากองค์การปกครองส่วนตำบล ซึ่งได้รับมาแล้วก็อยู่ระหว่างการพิจารณาตามกระบวนการโดยเร็ว การดำเนินการตามที่มีการขอพิจารณาเป็นหมอพื้นบ้านของหมอแสงเริ่มเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 ตอนนี้ต้นเดือน กุมภาพันธ์ 2561 ถือว่าไม่ได้นานเกินไป อีกทั้งกรมการแพทย์แผนไทยฯ ก็เป็นหน่วยงานที่ส่งเสริมเรื่องภูมิปัญญาไทย หมอพื้นบ้าน ส่งเสริมการสมุนไพรไทยเพื่อรักษาโรคอยู่แล้ว