ขณะเดียวกับ ร.ต.ท. จรูญ ยังฝากถึง ครูปรีชา ว่า หากเป็นเจ้าของลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 จริง ขอให้ได้เงินนี้ไปครอบครัวมีแต่ความสุขความเจริญ แต่หากไม่ได้เป็นเจ้าของขอให้ครอบครัวครูปรีชาฉิบหาย โดนสาบแช่งทั้งตระกูล ชีวิตล่มจม เจอแต่ความหายนะ ไม่มีความสุข ทนทุกข์ทรมาน ตกนรกหมกไหม้ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด สังคมประนามหยามเหยียดเป็นที่รังเกียจของคนในสังคม เช่นเดียวกับแม่ค้าทุกปาก หากเป็นพยานเท็จ รวมถึงนายตำรวจระดับสูงที่เชิญตนไปบ้าน หากมีส่วนได้ส่วนเสีย ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้จงลงโทษทั้งตัวท่านและผู้กระทำการทุกคน ชีวิตล่มจม ครอบครัวฉิบหาย ต้องออกจากราชการและชีวิตบั้นปลายต้องไปอยู่ในคุกทุกคน
ขณะเดียวกัน นางปณัญชญา สุขพูล หรือ เจ๊เกียว แม่ค้าขายลอตเตอรี่ซึ่งเป็นหนึ่งในพยาน ได้เดินทางมาสาบานตามคำท้าของหมวดจรูญ โดยขอเป็นตัวแทนในฝั่งแม่ค้ามายืนยันว่า ไม่ได้เป็นขบวนการหรือมีการเป็นพยานเท็จแต่อย่างใด โดยฝากตั้งคำถามว่า คนที่ไม่ซื้อลอตเตอรี่ไปขึ้นเงินได้อย่างไร และทำไมแม่ค้าถึงไม่เข้าข้างฝั่งที่มีเงิน 30 ล้าน แต่กลับเป็นพยานให้ครูปรีชา เนื่องจากตนเองเห็นว่า มีการซื้อขายลอตเตอรี่ดังกล่าวจริงกับตาตัวเอง
ทั้งนี้ ร.ต.ท. จรูญ ได้เข้ามาสาบานพร้อมกับ เจ๊เกียว อีกครั้ง โดยมีการอ่านคำสาบานที่ฝั่งเจ๊เกียวเขียนมาให้ ซึ่งเหตุการณ์นั้นผ่านไปตามปกติ ไม่มีการกระทบกระทั่งหรือโต้เถียงกัน เนื่องจากต่างฝ่ายต่างมันใจว่าตัวเองพูดความจริง