พล.ต.ต.พรหมณัฎฐเขต กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ได้สืบสวนจับกุมผู้เสพในพื้นที่ อ.เมืองขอนแก่น มาตลอดตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่ทุกคนได้ซัดทอดว่า รับยาบ้ามาจากนายอัษฎางค์ จึงทำการสืบสวนสอบสวนจนพบว่า นายอัษฎางค์นั้นได้ไปทำการบรรพชาเป็นพระภิกษุ ซึ่งจำวัดอยู่ที่ อ.ยางตลาด จึงได้ทำการลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ โดยในระหว่างเข้าตรวจค้นพบผู้ต้องหาพร้อมพระในวัด กำลังนั่งมั่วสุมเสพยาบ้า และยาไอซ์ในกุฎิ จึงทำการควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองขอนแก่น
" ผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้ เป็นที่รู้จักกันของเครือข่ายร่วมขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ เพราะ เป้ ขอนแก่น เป็นเอเย่นต์รายใหญ่ หรือสาขาหลักในภาคอีสาน ของกลุ่มขบวนการเครือข่ายค้ายาเสพติด ในย่านพระราม 2 กรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้ข้อมูลการสืบสวนนั้นมีการสาวถึงผู้ร่วมขบวนการอีกหลายคน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ส่งเรื่องให้ ปปส.และ บช.น. ร่วมสืบสวนสอบสวนขยายผล และที่สำคัญผู้ต้องหารายนี้ใช้ชีวิตแบบหรูหรา ขับรถยนต์ BMW เป็นพาหนะส่งยาบ้า และยาไอซ์ โดยกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มนักเที่ยวกลางคืนแทบทั้งหมด"
พล.ต.ต.พรหมณัฎฐเขต กล่าวต่ออีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การเป็นประโยชน์ และซัดทอดไปยังผู้ร่วมขบวนการแทบทั้งหมด โดยเฉพาะการรับซื้อยาบ้า ที่จะทำการสั่งสินค้าจากเครือข่ายยาบ้าทุก 2 สัปดาห์ โดยมียอดการสั่งซื้อครั้งละไม่น้อยกว่า 4 ล้านบาท เดือนละ 2 ครั้ง รวมทั้งยาไอซ์ และกัญชา ซึ่งเฉพาะผู้ต้องหารายนี้มีวงเงินสะพัดทีไม่น้อยกว่าเดือนละ 10 ล้านบาทต่อเดือน ยาบ้าที่นำมาจำหน่ายนั้น เป็นยาบ้าฟรุ้งฟริ้ง คือมีส่วนผสมยาไอซ์เข้าไปด้วย ในราคาจำหน่ายเม็ดละ 200-250 บาท ยาไอซ์กิโลกรัมละ 2,000 บาท ซึ่งทำให้ลูกค้าชื่นชอบ
เนื่องจากซื้อยาบ้า และมีส่วนผสมของยาไอซ์ด้วย อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนยังคงพบอีกว่า ในช่วงของการจับกุมตัวนั้นผู้ต้องหาได้ไปทำการบวชพระ เพื่อบังหน้า แต่กลับมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้คาผ้าเหลือง ทั้งนี้หลังการสอบปากคำแล้วเสร็จ จึงตั้งข้อกล่าวหาว่ามียาเสพติดประเภทที่ 1 ไว้ในครอบครองเพื่อเสพ และจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนทำการควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.โนนสูง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป