พระมหาไพรวัลย์ชี้ พระเข้าฟิตเนส-เล่นกล้ามผิดวินัยสงฆ์

พระสงฆ์เล่นกล้ามภายในคอนโดมิเนียมถูกวิพากษ์วิจารณ์และส่งต่อไปทั่วโลกออนไลน์ พร้อมกับจุดประเด็นถกเถียงว่า พฤติกรรมดังกล่าวนั้นเหมาะสมรวมถึงผิดวินัยสงฆ์หรือไม่ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณพระภิกษุวัดสร้อยทอง กรุงเทพฯ บอกโพสต์ทูเดย์ว่า ตามวินัยบัญญัติของภิกษุ เรื่องเสขิยวัตร ได้ระบุความเหมาะสมแก่สมณเพศในการประพฤติปฏิบัติต่อชุมชนเอาไว้ ซึ่งการเล่นฟิตเนสในที่สาธารณะ โดยถอดจีวรและเหมือนที่ปรากฎในข่าวนั้นมีความผิดแน่นอน

"พระจะไปเปลือยกายไม่นุ่งสบงทรงจีวรแบบนั้นไม่ได้ ผิดเสขิยวัตรในข้อที่ว่าเข้าไปในที่ชุมชนที่มีชาวบ้านอยู่พระจะต้องห่มคลุมกายให้มิดชิดเรียบร้อย"

ประเด็นเรื่องการออกกำลังกายของพระภิกษุสงฆ์ พระมหาไพรวัลย์บอกว่าแม้พระวินัย ซึ่งเป็นกฎระเบียบข้อบังคับ หรือขนมธรรมเนียมประเพณีที่จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปในทางเดียวกันของหมู่ภิกษุสงฆ์ จะไม่ได้ระบุข้อห้ามเอาไว้อย่างชัดเจน แต่ในฐานะพระภิกษุ การพยายามบำเรอร่างกายในลักษณะการบำรุงปรุงแต่งให้ดูสวยงามหรือดูดีขึ้น นั้นขัดกับพระวินัยอย่างแน่นอน

"พระไม่มีเหตุผลต้องมีกล้ามและชวนให้คนหลงใหลมันขัดกับหลักการเป็นพระ ในอดีตพระพุทธเจ้ายังเคยพูดเรื่องความคะนองไว้เหมือนกัน ซึ่งการออกกำลังกายอาจจะเข้าข่ายเรื่องนี้ด้วย เป็นการคะนองในแบบที่ชาวบ้านทำกัน"

พระภิกษุแห่งวัดสร้อยทอง กล่าวต่อว่า การออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสมณเพศ โดยทั่วไปพระสงฆ์จะเลือกปฏิบัติทำงานนวกรรมหรืองานก่อสร้าง ดูแลซ่อมแซมบูรณะปฏิสังขรณ์วัด

ทั้งนี้ท่านบอกทิ้งท้ายว่า หากคนทั่วไปพบเจอพระสงฆ์ออกกำลังกายในลักษณะเล่นฟิตเนส ยกเวทหรือบำเรอร่างกาย ควรเข้าไปสอบถามและตักเตือนท่านด้วยซ้ำ "ภาพที่ออกมานับเป็นความเสียหายโดยส่วนร่วมที่ไม่ควรเกิดขึ้น ไม่ทราบว่าเจ้าของสถานที่ปล่อยให้ท่านเข้าไปใช้บริการได้อย่างไร ขณะที่พระท่านเองก็ควรจะมีสามัญสำนึกถึงความถูกต้องเหมาะสม"

ทั้งนี้ เสขิยวัตร เป็นส่วนหนึ่งของวินัยบัญญัติของภิกษุ (ศีล 227 ข้อ) กล่าวคือ วัตรที่ภิกษุจะต้องศึกษา จัดเป็น 4 หมวด ได้แก่

สารูป(ว่าด้วยความเหมาะสมแก่สมณเพศในการประพฤติปฏิบัติต่อชุมชน) มี 26 ข้อ
โภชนปฏิสังยุต(ว่าด้วยการฉันอาหาร) มี 30 ข้อ
ธัมมเทสนาปฏิสังยุต(ว่าด้วยการแสดงธรรม) มี 16 ข้อ
ปกิณณกะ(เป็นหมวดเบ็ดเตล็ด) มี 3 ข้อ