ส่งผลให้สภาพร่างกายเริ่มย่ำแย่ ญาติและผู้ป่วยหลายรายถึงกับร่ำไห้ รับไม่ได้กับการกระทำของโรงพยาบาลที่ปฏิบัติต่อผู้ป่วย โดยทางโรงพยาบาลให้ผู้ป่วยเดินทางไปฟอกไตที่โรงพยาบาลอื่นเป็นการชั่วคราว ซึ่งที่ผ่านมาทางญาติของผู้ป่วยหลายรายนำผู้ป่วยไปทำการฟอกไตที่โรงพยาบาลอื่น แต่กลับประสบปัญหาว่า คนไข้เต็มไม่สามารถทำการฟอกไตได้ อีกทั้งการเดินทางที่ไกล ส่งผลกระทบต่อร่างกายของผู้ป่วย ประกอบกับบางครั้งการเดินทางไปกลับเป็นห่วงเวลาที่กลางคืน ทำให้การเดินทางเป็นไปยากลำบาก และอาจจะเกิดอันตรายจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นไทยพุทธ การเรียกร้องในครั้งนี้
ทางพันเอกอรรถวุฒิ จันทร์ศุภฤกษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ ไม่ได้ลงมาพบเพื่อรับทราบปัญหาของผู้ป่วย มีเพียงเจ้าหน้าที่แพทย์ที่เข้ามาให้กำลังใจ และสร้างความเข้าใจที่เกิดขึ้นให้กับผู้ป่วยเท่านั้น ซึ่งทางญาติจะเดินทางไปร้องขอความเป็นธรรมกับทางแม่ทัพภาค 4 ต่อไป
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจาก ทางโรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหารได้ทำการยกเลิกสัญญากับบริษัทเก่าที่ให้บริการฟอกไตให้กับผู้ป่วยของโรงพยาบาล โดยให้บริษัทใหม่เข้ามาดำเนินการต่อ แต่บริษัทใหม่ยังไม่สามารถให้บริการได้ เนื่องจากยังไม่ผ่านการรับรองมาตรฐาน และการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยโรคไตโดยตรง ทำให้โรงพยาบาลต้องส่งตัวผู้ป่วยโรคไต ไปรักษาตัวที่อื่น สร้างความเดือดร้อน ทำให้ผู้ป่วยหลายรายไม่ได้รับการรักษา เนื่องจากโรงพยาบาลหลายแห่งมีผู้ป่วยประจำอยู่แล้ว จึงอยากเรียกร้องให้ทางโรงพยาบาลเข้ามาจัดการกับปัญหาดังกล่าวโดยด่วน
ด้านนางซ่อนกลิ่น ชูศรี อายุ 61 ปี เปิดเผยว่า ตนเองป่วยเป็นโรคไตมา 3 ปีแล้ว และเป็นผู้ป่วยที่โรงพยาบาลแห่งนี้มาตั่งแต่แรก แต่ตอนนี้เดือดร้อนมาก เนื่องจากตนเองได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลหลายแห่ง แต่เนื่องจากผู้ป่วยเต็ม ทำให้ไม่รู้ว่าจะต้องไปฟอกไตที่ไหน วันนี้เป็นวันที่ 2 แล้วที่ไม่ฟอกไต และไม่รู้ว่าจะไปฟอกไตที่ไหน โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงขอให้ทางโรงพยาบาลเร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นโดยด่วน ซึ่งหากให้ผู้ป่วยต้องไปฟอกที่อื่นก็ลำบาก และโรงพยาบาลทุกแห่งก็เต็มแล้ว