วันที่ 21 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านในหมู่ที่ 5 ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นที่อยู่ของเด็กชายคนนี้ โดยมีชื่อว่า ด.ช.เสฏฐพงษ์ แช่มชื่น หรือน้องต้นกล้า อายุ 11 ปี กำลังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดสระแก้ว ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งนางอาฒยา แช่มชื่น อายุ 38 ปี แม่ของน้องต้นกล้า เล่าให้ฟังว่า น้องต้นกล้าเริ่มสนใจวาดรูปมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ โดยช่วงแรกจะเริ่มวาดรูปไดโนเสาร์ และสัตว์ป่าต่างๆ ต่อมาเริ่มสนใจวาดรูปแนวพุทธศิลป์ เป็นรูปพญานาค และพญาครุฑ ซึ่งมีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อได้เข้าเรียนที่โรงเรียนวัดสระแก้ว ทางโรงเรียนก็ได้สนับสนุนช่วยหาเวทีการประกวดให้ ทำให้ได้รับรางวัลมากมาย อีกทั้งได้รับเกียรติเข้าร่วมแสดงในงานความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น และได้รับรางวัลสร้างศิลป์ ของสถาบันปรีดี พนมยงค์ ซึ่งตอนนี้น้องต้นกล้าสามารถวาดรูปพญานาคและพญาครุฑโดยไม่ต้องมีต้นแบบได้แล้ว ส่วนการวาดพระพิฆเนศ ยังต้องใช้แบบของศิลปินชื่อดังอยู่ เพราะมีรายละเอียดมาก แต่จะคิดเติมลวดลายเข้าไปเองได้ และจากการที่เป็นคนชอบวาดภาพนี้เอง ตนก็ได้จัดเวลาพาน้องต้นกล้า ออกวาดภาพโชว์นอกพื้นที่ โดยช่วงเย็นวันจันทร์-พฤหัสบดี จะไปวาดภาพอยู่ที่ตลาดเซฟวัน
บางครั้งก็ไปที่ถนนเซาะกราว จ.บุรีรัมย์ ซึ่งได้รับการชื่นชมและมีผู้สนใจซื้อผลงานศิลปะไปอย่างต่อเนื่อง สร้างรายได้ให้น้องต้นกล้าประมาณ 700-1,300 บาท ต่อวัน โดยบางภาพมีคนขอซื้อในราคาที่สูงมาก เช่นภาพพระพิฆเนศ มีผู้ซื้อไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในราคา 7,000 บาท ซึ่งรายได้ส่วนนี้ก็จะนำมาเป็นค่าเล่าเรียนของน้องต้นกล้าและส่งน้องชาย คือ ด.ช.ชัยพัชร์ แช่มชื่น อายุ 7 ปี เรียนหนังสือด้วย เนื่องจากตนเองเป็นแม่บ้านอยู่เลี้ยงลูกๆ ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร ส่วนพ่อของน้องต้นกล้า ก็เป็นกรรมการมวยไทย ซึ่งต้องเดินสายตัดสินมวยไปต่างจังหวัดตลอดเวลา ทำให้รายได้หลักมาจากพ่อคนเดียว ดังนั้นน้องต้นกล้าจึงมีความตั้งใจที่จะหารายได้เสริมช่วยครอบครัวอีกทางหนึ่งด้วย
ด้าน ด.ช.เสฏฐพงษ์ แช่มชื่น หรือน้องต้นกล้า เปิดเผยว่า ตนเองนั้นไม่เคยเรียนศิลปะมาจากที่ไหน เพียงแต่ชื่นชอบการวาดรูปเป็นชีวิตจิตใจ เมื่อมีเวลาว่างก็จะจับดินสอมาวาดภาพเล่นเสมอ ต่อมาได้ดูโทรทัศน์รายการหนึ่ง ซึ่งถ่ายทอดชีวิตเด็กชายภูผา (ด.ช.ปรวุธ จิตรมิตรมงคล) อายุ 10 ขวบ ชาว จ.ราชบุรี เด็กอัจฉริยะซึ่งสามารถวาดภาพศิลปะลายไทยได้อย่างสวยงาม ตนจึงได้รับแรงบันดาลใจอยากจะเป็นเช่นนั้นบ้าง จึงได้เริ่มหันมาสนใจการวาดภาพศิลปะลวดลายไทย โดยแอบนำหนังสือของแม่ ที่มีลายไทยมาเป็นต้นแบบ
ซึ่งช่วงแรกๆ ก็กลัวว่าแม่จะด่า จึงได้ซ่อนรูปที่วาดไว้อย่างมิดชิด ก่อนที่ต่อมาแม่จะทำความสะอาดบ้าน และค้นพบรูปลายไทยที่ตนวาดเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่นั้นมาแม่ก็ได้ส่งเสริมให้ตนวาดภาพอย่างเป็นกิจลักษณะ โดยการซื้ออุปกรณ์วาดภาพให้ และพาออกทัวร์วาดภาพตามตลาดนัดต่างๆ เพื่อสร้างสมประสบการณ์เพิ่มขึ้น
น้องต้นกล้า เล่าอีกว่า ช่วงแรกๆ นั้นก็ยังไม่รู้จักอาจารย์เฉลิมชัย แต่เห็นน้องภูผาพูดถึงบ่อยๆ ตอนออกโทรทัศน์ จึงสงสัยและได้ไปค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต จึงได้รู้ว่าอาจารย์เฉลิมชัย เป็นถึงศิลปินแห่งชาติชื่อดังก้องโลก และเมื่อได้ชมผลงานของอาจารย์เฉลิมชัยแล้ว ก็ทำให้ตนรู้สึกชื่นชอบมาก เพราะมีความอ่อนช้อยสวยงามมาก ต่างจากศิลปินคนอื่นๆ โดยเฉพาะลายกนก ซึ่งมีปลายขดไปมาหลายชั้น ตนจึงได้พยายามค้นหางานศิลปะของอาจารย์เฉลิมชัย มาฝึกวาดตาม จนสามารถวาดได้อย่างใกล้เคียง ซึ่งขณะนี้ตนเองจะใช้การวาดด้วยสีน้ำและสีอะคริลิกเป็นส่วนใหญ่ และกำลังศึกษาการใช้สีน้ำมันอยู่
ส่วนความใฝ่ฝันของตนเองนั้น โตขึ้นก็อยากจะเป็นศิลปินแห่งชาติผู้ยิ่งใหญ่ เหมือนกับอาจารย์เฉลิมชัยให้ได้ โดยตอนนี้ก็กำลังสั่งสมประสบการณ์ และมีความตั้งใจอยากจะไปพบกับอาจารย์เฉลิมชัย สักครั้งหนึ่งในชีวิต เพื่อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ให้อาจารย์เฉลิมชัย ได้สอนเทคนิคต่างๆ ให้ อันจะเป็นแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่ เพื่อให้ตนนั้นมีพลังใจก้าวเดินไปสู่จุดหมาย ของการเป็นศิลปินแห่งชาติผู้ยิ่งใหญ่เหมือนกับอาจารย์เฉลิมชัย ต่อไป