จากกรณีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอสนธิกำลังร่วม เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง และทหาร บุกตรวจสถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท ย่านถนนพระราม 9 เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ พบหญิงบริการ 113 คน ขณะที่ผลการตรวจสอบพบโพยตั๋วฟรีที่รับรอง ข้าราชการทั้งตำรวจ และสรรพากร เบื้องต้นบช.น.สั่งย้าย 5 เสือสน.วังทองหลาง "ศรีวราห์" ก็เล็งให้ดำเนินคดีเจ๊กรรมการบริษัท และพวกอีกร่วม 20 คนผิดฐานค้ามนุษย์ ผลตรวจล็อตแรกมีอายุต่ำกว่า 18 ปี ถึง 3 คน อายุน้อยสุดไม่ถึง 15 ปี จ่อเอาผิดถึงลูกค้าใครอึ๊บเด็กโดนหมด ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 16 ม.ค. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างดำเนินการขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับผู้เกี่ยวข้องรวมทั้งสิ้น 8 ราย โดยหนึ่งในนั้นคือ น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ หุ้นส่วนใหญ่ของสถานบริการดังกล่าว ล่าสุดศาลอาญารัชดาฯอนุมัติหมายจับทั้งหมด รวม 10 ข้อหา ทั้งข้อหาความผิดตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์, กฎหมายตรวจคนเข้าเมือง, ค้าประเวณี, และสถานบริการ
กรณีที่ในระหว่างการเข้าตรวจค้นสถานบริการดังกล่าวพบว่ามีการติดชื่อของนาย กำพล หรือเสี่ยกำพล จากการตรวจสอบพยานหลักฐานในเบื้องต้น ยังไม่พบว่ามีบุคคลใดที่อยู่เหนือไปกว่าน.ส.ศศิธร แต่ต้องรอข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ จาก ดีเอสไอ และกรมการปกครอง เพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวนหาผู้บงการที่อาจอยู่เหนือกว่าน.ส.ศศิธรขึ้นไป หากข้อมูลการสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอ พบว่าไปถึงบุคคลใดจะดำเนินการออกหมายจับต่อไป
ส่วนกรณีของการรับรองร้อยเปอร์เซ็นต์ให้กับนายตำรวจและเจ้าหน้าที่ในระดับต่างๆ จากการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นพบว่า มีเพียงตำแหน่งเท่านั้น ไม่มีชื่อของบุคคลหรือนายตำรวจที่มีการกล่าวถึง ทำให้ยากต่อการออกหมายจับและดำเนินคดี ทั้งนี้หากหน่วยงานใดมีข้อมูลรายชื่อของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เรียกรับผลประโยชน์หรือได้รับการรับรองร้อยเปอร์เซ็นต์จากสถานบริการดังกล่าว สามารถส่งข้อมูลมาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้
หากมีข้อมูลครบถ้วนสามารถออกหมายจับในข้อหาสนับสนุนให้มีการค้ามนุษย์ได้ นอกจากนั้นยังให้ 4 กองบัญชาการที่มีรายชื่อตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจในโพยรับรองร้อยเปอร์เซ็นต์ของสถานบริการดังกล่าว ตั้งคณะกรรมการสอบสวนนายตำรวจทุกนายที่อาจเกี่ยวข้องกับโพยแล้วประกอบด้วย บช.ก., บช.ทท., บช.น. และสตม. หากพบว่าตำรวจนายใดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการทางวินัยและทางกฎหมายทันที
ต่อมาเวลา 17.00 น.น.ส.ศศิธรพร้อมทนายความเข้ามอบตัวกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์หลังถูกศาลอาญาอนุมัติหมายจับพร้อมพวก ใน 13 ฐานความผิด เบื้องต้นพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หลังจากนี้จะส่งมอบตัวให้กับพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง สอบปากคำก่อนจะนำตัวฝากขังที่ศาลอาญารัชดาฯในวันที่ 17 ม.ค. ส่วนผู้ต้องหารายอื่นๆ ที่เหลือทั้ง 6 คน ที่ศาลออกหมายจับถูกควบคุมตัวในเรือนจำ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณี
พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้น น.ส.ศศิธร ยอมรับเป็น ผู้ต้องหาตามหมายจับจริง แต่ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด 13 ฐานความผิด จากการตรวจสอบพบว่าน.ส.ศศิธรมีชื่อขอใบอนุญาตเปิดสถานบริการอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท แต่ต้องตรวจสอบว่าเป็นเจ้าของตัวจริงด้วยหรือไม่ ส่วนจะมีการโยงใยกับการค้ามนุษย์ต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน
สำหรับรายชื่อผู้ที่ศาลอนุมัติหมายจับจำนวน 8 หมาย 1.นายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย อายุ 67 ปี 2.นายชัยณรงค์ อันสุข อายุ 53 ปี 3.นายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ อายุ 55 ปี 4.นายสมชาย แสงอุดม อายุ 52 ปี 5.นายมนัส อ่วมทับ อายุ 48 ปี 6.นายเอกณพัชร์ จารุวัฒน์ปฐมกุล อายุ 29 ปี 7.ห้างหุ้นส่วนจำกัด อมรินทร์ออนเซน โดย น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการ 8.น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ในฐานะส่วนตัว อายุ 45 ปี
ด้านพล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ ที่ปรึกษา (สบ10) เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนจะมีการแบ่งทีมเรื่องการขยายผลและการสอบสวนผู้เสียหาย เบื้องต้นคิดว่าในขั้นตอนแรกต้องดำเนินการสอบสวนผู้เสียหายให้มีความชัดเจนเสียก่อน เพราะการจะได้ข้อเท็จจริงต่างๆ ต้องเริ่มต้นจากผู้เสียหายเป็นประเด็นสำคัญ กรณีผู้เสียหายที่เป็นบุคคลต่างด้าวจะไม่เหมือนกับพนักงานที่เป็นคนไทย เนื่องจาก ผู้เสียหายต่างด้าวมีระบบเอเยนต์ ระบบนำพา จึงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องสืบสวนสอบก่อน
สำหรับประเด็นที่มีการพูดว่าเป็นการกวาดล้างสถานบริการอาบอาบนวดที่เคยถูกจับก่อนหน้านี้ หรือความขัดแย้งระหว่างองค์กร พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์กล่าวยืนยันว่าไม่มี การดำเนินการครั้งนี้เป็นการทำงานร่วมกันของดีเอสไอ กรมการปกครอง และตำรวจ ซึ่งเกิดจากการสืบสวนขยายผลมาจากคดีเก่า รวมทั้งการให้ปากคำของผู้เสียหาย การให้ปากคำของเอ็นจีโอหรือผู้เสียหาย ส่วนที่มีการเข้าร้องเรียนให้ดีเอสไอช่วยเหลือ เนื่องจากคดีนี้เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรเป็นคดีพิเศษ
ด้านพล.ต.ท.นพ.วิฑูรย์ นิติวรางกูร นายแพทย์ใหญ่ ร.พ.ตร. กล่าวว่า สำหรับผลการคัดแยกเหยื่อ รอบแรกตรวจเหยื่อทั้งสิ้น 27 ราย ผลการตรวจสงสัยว่ามี 6 ราย น่าจะมีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่ง 6 รายนี้รวมกับ 3 รายที่เปิดเผยไปก่อนหน้านั้น ส่วนรอบสองตรวจไปทั้งสิ้น 82 ราย สงสัยว่าอาจจะมีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 5 ราย แต่ทั้งนี้ต้องรอผลการยืนยันด้วยวิธีเอ็มอาร์ไอ หรือการตรวจร่างกายด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า คาดว่าจะทราบผลภายในวันที่ 18 ม.ค.
ที่ บช.น. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี 5 นายตำรวจ สน.วังทองหลางแล้ว โดยให้ พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รอง ผบช.น. เป็นหัวหน้าคณะชุดสืบสวนข้อเท็จจริง มีกรอบระยะเวลา 30 วัน หากไม่แล้วเสร็จสามารถขยายเวลาไปอีกได้ หากพบว่ามีมูลความผิด จะเข้าสู่ขั้นตอนตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ส่วนการพบรายชื่อตำรวจสังกัด บช.น. ในสมุดบัญชีรับเงิน ได้รับส่วนลด และเที่ยวฟรีนั้น ต้องให้ความเป็นธรรมกับด้วย เขาไปหรือเปล่ายังไม่รู้ แต่ตอนนี้เป็นจำเลยสังคมไปแล้ว อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังรอเอกสารในส่วนนี้จากดีเอสไอด้วย
วันเดียวกัน รายงานข่าวระดับสูงของ ดีเอสไอแจ้งว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในสถานบริการ เพื่อดูว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐคนใดเข้าไปใช้บริการในสถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท หรือเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานบริการดังกล่าวหรือไม่ แต่อาจต้องใช้เวลา เพราะพบว่ากล้องมีการใส่รหัสไว้
นอกจากนั้นยังมีการตรวจสอบก่อนหน้านี้ พบว่ามีเหยื่อสาว 7 รายที่ถูกล่อลวงไปค้าประเวณียังประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนจะได้รับการช่วยเหลือจนสามารถเดินทางกลับมายังประเทศไทยได้เมื่อช่วงปลายปี 2560 เคย เดินทางเข้าร้องเรียนต่อดีเอสไอ โดยพบว่าพฤติการณ์ของสถานบริการอาบอบนวดแห่งนี้ เข้าข่ายเป็นการค้าประเวณีข้ามชาติ ซึ่งเหยื่อทั้ง 7 รายที่เดินทางมาร้องทุกข์ต่อดีเอสไอให้ข้อมูลว่า ถูกนายหน้าล่อลวงให้ทำงานที่สถานบริการอาบอบนวดดังกล่าว ก่อนจะถูกส่งตัวไปค้าประเวณียังประเทศเพื่อนบ้าน
ต่อมาเวลา 21.30 น. ที่สน.วังทองหลาง ตร.ควบคุมตัวน.ส.ศศิธร มารับทราบข้อ กล่าวหา โดยเจ้าหน้าที่คัดค้านการประกันตัว ก่อนจะนำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญารัชดาในเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ม.ค. นอกจากนี้ทาง เจ้าหน้าที่ได้นำตัวหญิงต่างชาติ 82 คน ซึ่งเข้าข่ายความผิดฐาน ร่วมกันมั่วสุมในสถานที่ค้าประเวณีมาเปรียบเทียบปรับ จำนวน 1 พันบาท ก่อนจะส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเพื่อไปดำเนินการตามกระบวนการผลักดันออกนอกประเทศต่อไป