โดยตำรวจได้เตรียมดำเนินคดีในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวหลบนีเข้าเมือง และพำหนักอยู่ในประเทศไทยโดยไม่ได้รับอณุญาต แต่ทางนายเฉินหลงให้การว่าตนเป็นคนไทยที่ตกสำรวจ และได้ขอโทรไปให้ญาติให้นำหลักฐานการเป็นคนไทยมาแสดง ต่อมาทาง น.ส.จิราพร โพธิ์สุวรรณ บุตรสาว ได้นำหลักฐานสูติบัตรและหลักฐานใบสุทธิการเรียนหนังสือ และหลักฐานซึ่งแสดงว่า นายเฉินหลง มีชื่อจริงว่า นายจางเป่า แซ่ฉี่ อายุ 51 ปี พักอยู่บ้านตามทะเบียนบ้าน เลขที่ 84/3ถนนสุริยวงค์ ซอย 5 ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มาแสดงให้เจ้าหน้าที่
โดยนายเฉินหลง บอกกับตำรวจ ว่าตนเกิดในพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ได้แจ้งย้ายมาอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ตั้งแต่เด็ก และลืมไปถ่ายบัตรประชาชน เนื่องจากตะลอนไปอยู่หลายที่ ส่วนพี่น้องตนก็มีบัตรประชาชนคนไทยหมดแล้ว ส่วนเรื่องที่กล่าวหาตนออกมาเป็นแกนนำต่อต้านทัวร์ศูนย์เหรียญนั้น ขอปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นแกนนำแต่อย่างใด แต่เนื่องจากลูกสาวมีอาชีพเป็นผู้ประกอบการทัวร์อยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในตัวเมืองเชียงใหม่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากทัวร์จีนที่เข้ามาแย่งงาน จึงมาปรึกษากับตน ต่อมาตนจึงพากลุ่มผู้ประกอบการไปร้องเรียนตามหน่วยงานต่างๆให้ช่วยเหลือ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนมาตลอด ขณะเดียวกันทางตำรวจสอบถาม กรณีที่สถานีโทรทัศน์ ที่พามาถ่ายทำในครั้งนี้ นายเฉินหลงไปร้องเรียนใช่หรือไม่ นายเฉินหลงตอบว่า สื่อได้ติดต่อมาหาเอง