โดยวันที่ 5 ม.ค. เวลา 10.00 น. ที่สน.บวรมงคล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้สอบถามน.ส.สุภัทรา แย้มกลัด อายุ 19 ปี และนายศตคุณ ทิมา อายุ 34 ปี ญาติของน้องเคลียร์ ที่เดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวน เพื่อเข้าให้ข้อมูลและเดินทางเข้าตรวจห้องพักของน้องเคลียร์ย่านลาดพร้าว ก่อนจะไปรับศพของนัองเคลียร์ที่รพ.ศิริราช ในวันพรุ่งนี้
น.ส.สุภัทรา และนายศตคุณ เปิดเผยว่า เดิมน้องเคลียร์ มีชื่อเล่นตั้งแต่เริ่มต้นว่า ‘เอเชีย' แต่ญาติและเพื่อนๆ เปลี่ยนมาเรียกว่า ‘เคลียร์' ปกติน้องเคลียร์เป็นคนนิสัยร่าเริงแจ่มใส แม้ว่าจะกำพร้าพ่อแม่มาตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา และอาศัยอยู่กับยายที่จ.ระนอง จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก็ได้ยินว่าน้องเคลียร์ตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพฯ คนเดียว ทั้งๆ ที่ทางญาติก็ไม่เคยผลักไส กลับคอยให้ความรักและดูและเป็นอย่างดี โดยหลังจากแม่เสีย น้องชายแม่ที่อยู่สิงค์โปร์ ก็คอยส่งเงินมาให้ใช้ทุกเดือนไม่เคยขาด
ที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยได้พบกับน้องเคลียร์บ่อย ทราบแค่ว่าน้องเคลียร์มาทำงานอยู่กรุงเทพฯ คนเดียว เพราะน้องเคลียร์เป็นคนเก่ง และสามารถดูแลตัวเองได้ โดยรับสอนเด็กชั้นประถมศึกษา ซึ่งหลังจากเห็นคลิปที่น้องโดดจากสะพานก็รู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าน้องจะตัดสินใจแบบนั้น เพราะที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาอะไรเป็นพิเศษ ทราบแค่ว่าน้องมีแฟน ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่สามารถติดต่อแฟนของน้องได้เลย เพราะก็อยากจะสอบถามถึงสาเหตุการฆ่าตัวตายของน้องเหมือนกัน
พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผกก.สน.บวรมงคล เปิดเผยว่า ในวันนี้ยังไม่มีการเรียกตัวนายภัทรดนัย นุ่มศรีนารถ คนขับขี่รถจยย.ที่มาส่งน้องเคลียร์ที่สะพานพระราม 8 จากนั้นถือโทรศัพท์มือถือของน้องเคลียร์ ก่อนจะพลัดตกจากสะพานพระราม 8 ลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยามาให้ปากคำเพิ่มเติมแต่อย่างใด หลังจากนี้จะได้นัดหมายนายภัทรดนัยให้ปากคำเพิ่มอีกครั้ง โดยไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียก เพราะยังมีการโทรศัพท์ติดต่อกันอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงนายภัทรดนัย ไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนี และเคยเข้าให้ปากคำแล้ว 2 ครั้ง ส่วนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่ ต้องรอให้สอบปากคำ และ รวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้นก่อน