ล่าสุดพล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา คือ นายธรรมรัตน์ หรือ "พายุ" อ่ำน้อยวงษ์ อายุ 36 ปี พร้อมยึดรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ ทะเบียน กค 8788 กรุงเทพมหานคร คันที่ใช้ก่อเหตุไว้เป็นของกลาง โดยพบว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าว เป็นของผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำ ส่วนผู้ต้องหาอีกคนที่ร่วมกันก่อเหตุอยู่ระหว่างหลบหนี
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุจริง และยอมรับว่ามีการเสพยาเสพติดด้วย เมื่อตรวจสอบประวัติพบว่า เคยถูกตำรวจ สน.นางเลิ้ง จับกุมมาแล้ว 5 ครั้ง ทั้งคดีเสพยาเสพติด และลักทรัพย์
โดยวันนี้ ยังมีผู้เสียหายมาแจ้งความเพิ่มที่ สน.บางซื่อ อีก 3 ราย ทุกคนระบุตำหนิ รูปพรรณคนร้ายตรงกัน คือ มีรอยสักที่คอ โดยหนึ่งในผู้เสียหายระบุว่า ช่วงเวลาประมาณตี 2 ของวันที่ 2 ธันวาคม ตนเองกับเพื่อนผู้เสียหายอีกคน ได้นั่งรถทัวร์กลับจากเชียงใหม่ มาลงที่ขนส่งหมอชิต ระหว่างนั้น ถูกกลุ่มวินรถจักรยานยนต์กว่า 10 คัน เข้ามาชักชวนให้ใช้บริการ แต่ตนไม่สนใจเพราต้องการเรียกรถแท็กซี่ จึงได้ไปนั่งทานก๋วยเตี๋ยว แต่วินจักรยานยนต์ยังตามตื้อและรอ
ตนจึงได้เข้าไปเจรจายอมจ่ายค่าเสียเวลาให้ 100 บาท แต่ไม่ต้องไปส่ง ซึ่งวินดังกล่าวก็ยังไม่ยอมไป ทำให้ตนกับเพื่อนต้องนั่งรถวินไปคนละคัน แต่ปรากฎว่าขี่ไปคนละทาง แล้วยังเรียกเก็บค่าโดยสารคนละ 480 บาท โดยเชื่อว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะเสพยาเสพติดด้วย เพราะมีอาการคล้ายคนเมายา ชักกระตุกเป็นระยะๆ เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหากรรโชกทรัพย์ และความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ อีก 4 ข้อหา
โดยทีมข่าวอัมรินทร์ทีวีได้ลงพื้นที่ไปยังริมทางรถไฟแยกยมราช ชุมชนบ้านมนังคศิลา พบกับ นางศรี อับน้อยวงศ์ หรือ "ยายน้อย" แม่ของวินจักรยานยนต์รับจ้าง เปิดเผยว่า ยังไม่เห็นคลิปวีดีโอดังกล่าว และไม่ทราบข่าวว่าลูกชายโดนจับ แต่มีคนแถวบ้านบอกว่า ลูกขับวินมอไซต์แล้วเรียกเก็บเงินแพง ยายน้อย เล่าว่า ลูกชายขับวินมานานแล้ว แต่ไม่เคยรู้ว่าไปขับอยู่อู่ไหน อย่างไรบ้าง โดยปกติลูกเป็นคนขยันทำงาน ใครจ้างไปทำอะไรก็รับจ้างหมด อีกทั้งยังเป็นคนรักพ่อแม่ รักครอบครัว ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายแม่ เวลามาเจอก็เอาเงินจากที่ขับวินมาให้ และซื้อกับข้าวมาให้ตลอด
เรื่องปัญหาส่วนตัวก็ไม่เคยเล่าให้แม่ฟัง เป็นคนเงียบๆ อีกทั้ง เป็นคนไม่สู้คนและไม่เคยต่อล้อต่อเถียงกับใคร เคยมีครั้งหนึ่งไปมีเรื่องกับคนอื่น โดนทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไม่เคยมาเล่าให้แม่ฟัง สุดท้าย มาทราบเรื่องเอง ซึ่งก็เป็นเพียงครั้งเดียวที่มีเรื่องมีราวกับคนอื่นเขา
พอเกิดเหตุการณ์เรียกเก็บค่าวินแพงตามที่เป็นข่าว ยายน้อย เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า รู้สึกไม่สบายใจ เสียใจ และลำบากใจว่าจะทำอย่างไร ไม่รู้ว่าลูกไปอยู่โรงพักไหน จะโดนคดีอะไรบ้าง ส่วนตัวตอนนี้สงสารลูกมากที่สุด เพราะถ้าไม่มีพายุก็คงไม่มีใครหาให้ตนกิน มีเพียงพายุคนเดียวที่ช่วยเหลือ ที่ผ่านมาลูกชายเป็นเด็กดีที่สุด รักพ่อแม่ พ่อไม่สบายก็หาเงินมาซื้อยามาให้