กฤตภาส : "วันนั้นประมาณตีหนึ่ง นัดกับน้องว่าอีก 20 นาทีจะถึงจุดที่เขารอผมอยู่ ที่ร้านอาหารอิฐแดง อยู่พุทธมณฑลสาย 1 ขับมาจากเพชรเกษม ข้ามแยกจรัญ 13 แล้วเบี่ยงซ้ายเพื่อเข้าช่องกลับรถไปรับน้องอีกฝั่ง ฝั่งตรงข้ามเกิดอุบัติเหตุ ตอนนั้นเรายังไม่ได้กลับรถ อยู่เลนซ้ายเปิดสัญญาณไฟแล้ว อยู่ดีๆ มีรถมาชนตูด คิดว่าเป็นมอเตอร์ไซค์ พอลงแล้วเบี่ยงซ้ายก็เปิดไฟเลี้ยวมาแล้ว ขับไม่เร็วประมาณ 60 ตอนนั้นดูดีๆ แล้ว คืนนั้นถนนโล่งมาก"
เขาก็ชนตู้มเลย?
กฤตภาส : "ก็ตกใจสะดุ้ง ลูกสองคนอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ผมก็เปิดประตูชะโงกไปดูเป็นมอเตอร์ไซค์ ก็ตามคลิปเลย เมื่อวานเขาแถลงข่าวว่ารถผมจอดนิ่งไม่มีไฟ มันไม่ใช่นะครับ"
ตอนแรกบอกปาดหน้า ครั้งที่สองบอกจอดอยู่ไม่ได้เปิดไฟ?
กฤตภาส : "ใช่ครับ ผมก็ถอยหลังมาเพราะผมอยู่ไกลจากรถมอเตอร์ไซด์ ถอยหลังมาประมาณ 5 เมตรราวๆ นี้ ถือโทรศัพท์อยู่กำลังจะโทรหาลูกสาว เห็นคนเจ็บนั่งอยู่หนึ่งคน คนซ้อนนั่งกับพื้น อีกคนก็หมอบกับพื้น ไม่ได้สวมหมวกกันน็อกทั้งคู่ ผมก็โทรหาลูกสาวเพื่อจะบอกว่ารถพ่อเกิดอุบัติเหตุ ลูกสาวก็วิ่งข้ามมา"
พานทอง : "หนูก็วิ่งข้ามมา เพราะร้านหันหน้าหาถนน เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด พ่อไม่ได้ปาดเข้ามา เรามองอยู่ พอชนตู้มก็วิ่งมา"
กฤตภาส : "เราก็ถามผู้บาดเจ็บว่าน้องเป็นอะไรหรือเปล่า แล้วมีมอเตอร์ไซค์มาก่อนน้องนิดหนึ่ง เป็นผู้ดูแลร้านอาหาร รถราจอด เขาก็โทรหาอาสา สักนาทีสองนาที อาสาก็มาแล้ว ตอนแรกผมยืนอยู่ตรงอาสา แล้วพอเห็นมอเตอร์ไซค์เพื่อนเขามา ผู้บาดเจ็บยืมโทรศัพท์คนเฝ้าเต้นท์รถโทรหาเพื่อน พอเพื่อนมาปุ๊บ ผมก็เดินมาหาลูกสาวก่อน ว่าระวังมีเรื่องตอนนี้ บอกเลย"
พานทอง : "เพราะเขามาเยอะเรื่อยๆ มาทีละคัน"
กฤตภาส : "เหมือนผมมีเซ้นส์ ผมเคยผ่านชีวิตช่วงนี้มา ก็กระซิบบอกลูกว่าระวังนะ น่าจะมีเรื่อง พอกระซิบเสร็จปุ๊บ ไอ้เจ้าดำ คนที่ทำร้ายเราก็โวยวาย ถามว่ามึงชนรถได้ไง ชนเพื่อนได้ไง"
พานทอง : "ถ้าไม่เป็นจริงนะ มึงจมตีนแน่"
กฤตภาส : "ผมก็เดินไปบอกอาสาด้วย แต่ไอ้คนใส่หมวกที่โดนจับมือล้วงกระเป๋าอยู่ ยืนอยู่ข้างผม ผมไม่รู้ในมือมีอะไร ผมก็รู้สึกว่ามันไม่ดีแล้ว ก็เสียเปรียบมัน ก็เดินไปบอกอาสาไว้ก่อนว่าพี่ดูแลพวกผมด้วย ดูแล้วเหมือนจะมีเรื่อง หลังจากนั้นสักพัก ถามไปถามมา ไม่รู้ไปฉุดอะไรเขา เขาก็มาต่อยผมก่อน แล้วลูกสาวมาขอร้อง ผมไม่ได้ตอบโต้อะไรมากแค่หลบ"
พานทอง : "เขาต่อยมาเลย น้องสาวก็วิ่งไปกันอยู่หน้าพ่อ คอยห้าม บอกว่าขอร้องนะพี่ ค่อยๆ ดูกัน"