จากการสอบสวนเด็กทราบว่า เมื่อเวลา ประมาณ 19.00 น. ตนได้นั่งอยู่ภายในบ้านที่เป็นกระท่อมในสวนยางพารา ห่างจากจุดที่วิ่งมาประมาณ 1 กม. อยู่กับคุณตาที่ไม่สบาย ต่อมาได้มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน สวมเสื้อแขนยาว มีผ้าปิดหน้าขับขี่รถ จยย.ไม่ทราบสี และยี่ห้อ เพราะมืดแล้ว ขับมาจอดที่หน้ากระท่อม
หลังจากนั้นคนร้ายทั้ง 2 ได้เดินเข้ามาดึงประตูบ้านจนเปิดออกแล้วเข้ามาภายในบ้านตนจึงถามว่ามาทำไม คนร้ายพูดว่ามาหามึงลักษณะคล้ายคนเมา หลังจากนั้นได้ชักมีดออกมาจี้ที่ตน พร้อมทั้งค้นในกระเป๋านักเรียนและดึงเอาเชือกไนล่อนสำหรับใช้ในวิชาลูกเสือของตนออกมามัดมือ และเท้าของตน ตนจึงเรียกให้คุณตาช่วย แต่คนร้ายเอามือปิดปาก คุณตาที่ไม่สบายอยู่อีกห้องไม่ได้ยิน คนร้ายจึงอุ้มตนขึ้นรถจยย. โดยให้ตนนั่งตรงกลาง ระหว่างทางคนร้ายได้ดื่มกินน้ำสีขุ่นๆในขวดพลาสติก คล้ายๆ น้ำต้มใบพืชกระท่อม ที่เคยเห็นวัยรุ่นแถวบ้านกินกัน พร้อมทั้งเอามีดจี้ที่เอวไปตลอดทาง พร้อมทั้งสั่งห้ามส่งเสียงดัง และขับรถ จยย.พาตนไปบนถนนภายในสวนยางเป็นระยะทางประมาณ 500 เมตร
ต่อมาตนเห็นท่าไม่ดี จึงผลักคนร้ายที่นั่งซ้อนด้านหลังตนจนพลัดตกรถ และรถจยย. ก็ได้เสียหลักล้มลง ตนได้โอกาสจึงแก้เชือกออกแล้ววิ่งไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่ห่างไปอีกประมาณ 500 เมตร ส่วนคนร้ายเห็นท่าไม่ดี จึงขับขี่รถ จยย.หลบหนีไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อไปหาพ่อแม่ของเด็กทราบว่ากำลังทำงานก่อสร้างอยู่ ยังไม่กลับบ้าน และให้การว่าทั้ง 2 มีอาชีพทำงานก่อสร้าง เมื่อตอนบ่ายได้ไปรับลูกสาวที่โรงเรียน และนำมาส่งไว้ที่บ้านให้อยู่กับคุณตาที่ป่วย เพื่อได้ช่วยดูแล หลังจากนั้นก็ได้เดินทางไปทำงานต่อ จนมีเจ้าหน้าที่ไปตามว่าลูกสาวถูกทำร้ายดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำในเบื้องต้น พร้อมทั้งส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกายที่ รพ.ทุ่งใหญ่ เนื่องจากมีบาดแผลถลอกตามร่างกายหลายแห่ง ในเบื้องต้นเด็กให้การว่าได้ยินการพูดคุยของคนร้ายทั้ง 2 ราย จับใจความได้ว่ามีชื่อตั้มกับชื่อเบิร์ด เจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายทั้งสองคงหวังข่มขืนเด็ก เพราะไม่ประสงค์ต่อทรัพย์สินใดๆ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจะได้ลงพื้นที่ติดตามหาตัวคนร้ายทั้ง 2 รายมาดำเนินคดีต่อไปเพื่อความปลอดภัยของเด็กผู้หญิงในหมู่บ้าน
ชมคลิปด้านล่าง