วันนี้คุณจตุพรมาขึ้นศาล ที่ศาลอาญารัชดาครับ
คุณจตุพรลงรถเรือนจำมา ด้วยน้ำหนักที่ลดลงไปประมาณ 20กว่ากิโล เพราะอยู่ในเรือนจำได้ทำการควบคุมน้ำหนัก และออกกำลังกาย
ก่อนเข้าไปในศาล คุณจตุพรพูดเพียงสั้นๆว่า "ยังสบายดี"
รักษาสุขภาพนะครับ ทานอาหารให้อิ่ม เพื่อเติมพลังให้ร่างกาย..กาลข้างหน้า แม้นว่าฟ้ายังเป็นสีดำมืด..คนยังหลงระเริงในลาภยศสรรเสริญ..กาลเวลานั้น..อาจจะถึงเวลาแห่งอายุขัย..และวันนั้น ฟ้าคงจะคลายสีจางลงได้..ทุกคนเป็นกำลังใจ...
ขอให้คุณพระคุ้มครอง ปกปักรักษา ปกป้องคุมภัย ขอให้คุณจตุพรปลอดภัยจงกลับมาเดินบนถนนประชาธิปไตย อย่างสง่า และภาคภูมิใจ และพวกเราคนรักประชาธิปไตย จะเป็นกำลังใจให้กันและกันตลอดไป...
สวัสดีค่ะคุณตู่จตุพรพหรมพันธ์ จะเป็นกำลังใจให้กับคุณจตุตลอดไปและตลอดกาลค่ะขอไห้ท่านเทวดาจงลงมาปกปักรักษาคุ้มครองคุณจตุพรพหรมพันธ์ด้วยเทิอนสาธุๆค่ะคุณตู่จตุพรพหรมพนัธ์ท่านเป็นนักต่อส้ผู้ยี่งไหญ่อยู่ในหัวใจของพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนเสื้อแดงน่ะค้ะรักคุณตู่จตุพรพหรมพนัธ์มากมายก่ายกองเลยน่ะค้ะ
อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2560 ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.1962/2552 ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328,332 ที่นายอภิสิทธิ์ ยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2552 ระบุว่า วันที่ 10 พฤษภาคม 2552 นายจตุพร จำเลยได้ปราศรัยด้วยเครื่องกระจายเสียงต่อหน้าประชาชน จำนวนกว่าหมื่นคน กรณีการปราบปรามม็อบเสื้อแดง ซึ่งล้วนเป็นเท็จ การกระทำของจำเลย ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างมาก ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จากประชาชนที่ได้ยินได้ฟังการปราศรัยของจำเลย เหตุเกิดที่วัดไผ่เขียว แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. ซึ่งนายจตุพร จำเลยให้การปฏิเสธ
ทั้งนี้โดยศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.55 ให้ยกฟ้องจำเลย ต่อมานายอภิสิทธิ์ โจทก์ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลวินิจฉัยข้อเท็จจริง ที่เป็นมูลเหตุที่นำมาสู่การกล่าวหมิ่นประมาท ที่ไม่ใช่เพียงการโต้ตอบทางการเมืองแต่มีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2557 ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นที่ให้ยกฟ้องเช่นกัน และนายอภิสิทธิ์ ได้ใช้สิทธิตามกฎหมายยื่นฎีกาคดีอีกและศาลก็ได้นัดอ่านคำพิพากษาฎีกาปรากฎว่า ศาลฎีกา พิพากษากลับให้จำคุกนายจตุพร พรหมพันธุ์ 1 ปี ไม่รอลงอาญา และให้โฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์รายวัน 7 วัน