เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับตนเองไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้ส่งหมายจับให้ตนเองดูในไลน์ด้วย ซึ่งตนเองก็พยายามอธิบายว่าไม่เคยส่งพัสดุ หรือเดินทางไปจ.เชียงรายเลย แต่ปลายสาย ชายซึ่งอ้างตัวเป็นนายตำรวจได้กล่าวว่าให้ตนใจเย็นๆ เดี๋ยวจะให้การช่วยเหลือ แต่ให้ตนเองคุยกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงยศผู้การซึ่งปกติท่านจะไม่ช่วยเหลือใครนะ และที่สำคัญท่านเป็นคนที่ดุ มาก ให้ตนเองพยายามอ้อนวอนคุยกับท่านดู เผื่อท่านจะให้การช่วยเหลือ
จากนั้นได้โอนสายให้ตนเองคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งตั้งตัว เป็นผู้การ โดยแนะนำตัวเอง ว่าชื่อผู้การอิทธิรัตน์ ภัทรกิ่ง หรือให้เรียกว่าผู้การกิ่ง ซึ่งจากนั้น หญิงที่อ้างตนเองเป็นผู้การกิ่ง พยายามพูดจาข่มขู่ และ สอบถามข้อมูลส่วนตัวตลอดจนบัญชีธนาคารที่ใช้อยู่ โดยอ้างว่า เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบ การเงินของตนเอง ตยเองต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งตนเองอยู่ในสภาวะที่ตกใจกลัว เพราะเห็นว่าตำรวจมีหมายจับและตนก็ไม่เคยทำผิดไม่รู้จะปรึกษาใคร จึงให้ข้อมูลไปทั้งหมด จากนั้นหญิงที่อ้างตัวเป็นผู้การกิ่งได้บอกว่า ขณะนี้ได้ออกหมายจับตนเองแล้ว แต่ถ้าตนเองให้ความร่วมมือก็จะติดต่อกับอัยการระงับหมายจับตนเองก่อ
พร้อมให้ ตนเองนำบัตรเอทีเอ็มเดินทางไปที่ธนาคารกรุงเทพสาขาที่ใกล้บ้านที่สุด จากนั้น ได้สั่งการให้ ตนเองทำการตรวจสอบยอดเงินบัญชีของตนผ่านตู้ธนาคารโดยผู้การกิ่ง จะบอกปุ่มซ้ายขวาให้กดทั้งหมดโดยให้ใช้เป็นปุ่มที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ตามที่ หญิงที่อ้างตัว เป็น ผู้การ เป็นคนบอก ซึ่งตนเองหลงเชื่อจึงกดรหัสเอทีเอ็มของบัญชีพร้อมทั้งกดเลือกเมนู เป็นภาษาอังกฤษ จากนั้นเมื่อกดเข้าเมนูของธนาคารแล้วหญิงสาวที่อ้างตัวเป็นผู้การได้บอกให้ตนเองกดหมายเลข 10 ตัวของรหัสตรวจสอบคือหมายเลขโดยอ้างว่าเป็น รหัสการตรวจสอบเงิน ซึ่งตนเองกำลังจะกดยอดเงินที่มีอยู่ในบัญชีจำนวนหนึ่งแสนกว่าบาทเข้าไปในรหัสตรวจสอบยอดเงินดังกล่าว
แต่ขณะเดียวกันที่มีนายตำรวจยศร้อยเอก ท่านหนึ่ง ของสภ. เมืองลำปางมาทำธุรกรรมที่ตู้เอทีเอ็ม ดังกล่าวพอดี จึงหันไปถามว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเช่นนี้หรือไม่ ขณะที่มือก็กดยอดเงินไปแล้วซึ่งนายตำรวจ บอกว่าให้ยกเลิกรายการทั้งหมด และอย่ากดโอนซึ่งตนเองตกใจกดผิดกดถูกกดโอนเงิน เข้าไปในบัญชีตรวจสอบ ที่หญิงซึ่งอ้างตัวเป็นผู้การ เป็นจำนวนเงินจำนวนหนึ่ง จึงรีบมากดตรวจสอบยอดเงินในธนาคารพบว่ากดโอนไปเข้าบัญชี 142 4 0403 90 เป็นจำนวนเงิน 1 บาท 11 สตางค์ ซึ่งก็นับว่าโชคดีที่พบกับ นายตำรวจของสภ. เมืองลำปาง
ตนจึงเล่าเหตุการณ์ให้ฟังซึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าว ก็แนะนำให้ตนเองไปแจ้งความที่ สภ. เมืองลำปาง เพราะมีความเสียหายเกิดขึ้นและตนเองได้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งกำลังระบาดอยู่ในขนาดนี้ และเมื่อนำรูปหมายจับที่ทางชายซึ่งอ้างตัวเป็นผู้กองส่งมาข่มขู่ตน ให้กับนายตำรวจ นายดังกล่าวของสภ. เมืองลำปางดู พบว่าเป็นหมายจับปลอม การลงชื่อยศตำแหน่งของผู้การไม่ถูกต้อง ซึ่งตนเองก็ยังนับว่าโชคดีที่ไม่ต้องสูญเสียเงินจำนวนหลายแสนบาทให้แก๊งมิจฉาชีพ พร้อมกันนี้จึงอยากฝากเตือนผู้ที่ได้รับโทรศัพท์หรือถูกข่มขู่จากแก๊งมิจฉาชีพคอลเซ็นเตอร์ อย่าได้หลงเชื่อขอให้ตั้งสติและไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อตรวจสอบ