เมื่อถามว่ากรณีดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายละเมิดหรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า ต้องสรุปชัดเจนก่อนว่านายภคพงศ์ตายเพราะอะไร หากเสียชีวิตโดยไม่ได้มีใครไปทุบทำร้ายเขา แต่เสียชีวิตเพราะถูกบังคับให้กระทำอย่างใดอย่างหนึ่งจนร่างกายรับไม่ไหว ก็ต้องถือว่าเขาเสียชีวิตโดยการที่มีคนซึ่งมีอำนาจบังคับให้เขาต้องทำแบบนั้น ซึ่งคนที่มีอำนาจคนนั้นก็ต้องรับผิดชอบ
อังคณา ตกใจหมอควักอวัยวะ’น้องเมย’ ญาติยังไม่เซ็นยินยอม ชี้ ธำรงวินัยทหาร เข้าข่ายทรมาน
นางอังคณา กล่าวอีกว่า การจะทำให้คนรู้รักษาวินัย มีวิธีการการอื่นๆอีกมากมาย และประเพณีวัฒนธรรมอะไรที่ไมดี ไม่ถูกต้องก็ควรจะปรับปรุง ซึ่งรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียน โดยหากรัฐบาลจะประกาศเอาเรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาติ ก็ควรจะปฏิรูประบบนี้เสีย ไม่เช่นนั้นก็จะไปเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีกกับลูกของประชาชนคนอื่นๆ อย่างไรก็ตามในส่วนของญาติผู้เสียหาย หากรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถร้องต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนได้ กสม.ก็จะเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งจะตรวจสอบได้ว่ามีการละเมิดหรือไม่ แต่ก็ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้เกิดความจริงได้ง่ายเพราะผู้ที่เห็นเหตุการณ์ คือนักเรียนนายร้อยด้วยกันซึ่งอยู่ที่ว่าจะพูดหรือไม่ เพราะก็อาจจะอ้างเรื่องวินัย พูดไม่ได้ เป็นความลับราชการ ก็ยากจะหาหลักฐาน นอกจากหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจตายหรือไม่ น่าจะเกิดจากสาเหตุอะไร แต่ก็อาจจะฟันธงไม่ได้ชัดถ้าพยานที่เห็นเหตุการณ์ไม่พูด " จริงๆ เรื่องนี้ถ้าหากเจ้าหน้าที่ระดับสูงคิดว่า เป็นเรื่องที่ควรจะเยียวยาครอบครัวเขาก็ควรบอกความจริงกับเขาดีกว่า"