“คิตตี้” ลั่นมีผู้ชายโอนเงินให้ ยอมรับเบิกเงินบริจาคไปใช้หนี้คืน อ้างต้องเลี้ยงลูก (คลิป)

นายเอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่่าวว่า ตนเดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่าตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการเบิกถอนเงินในบัญชีของนายกิตติ อดีตดาราดาวร้ายรุ่นพี่ หลังตรวจสอบพบว่าเงินในบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้ถูกถอนออกไปจำนวน 80,000 บาท ซึ่งเงินดังกล่าวเป็นเงินที่พี่น้องประชาชนได้โอนมาให้พี่กิตติเพื่อใช้ในการรักษาตัว ตนจึงมาเเสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินจำนวนดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายเอกพันธ์ แจ้งความอยู่นั้น น.ส.ศศิประภา หรือ คิตตี้ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ไทรน้อย เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับกรณีเงินจำนวน 80,000 บาท ที่มีการถูกถอนออกมาว่าเงินดังกล่าวได้นำไปใช้จ่ายอะไรบ้าง โดยทีการซักอย่างหนัก เนื่องจาก ตอนแรก คิตตี้ อ้างว่า เบิกเงินส่วนดังกล่าวไปจริง เพราะเอาไปให้ผู้ชายคนหนึ่งที่เคยติดหนี้เพราะเคยโอนเงินมาให้ โดยโอนมาให้ผ่านบัญชีของกิตติ โดยเป็นเพื่อนทางเฟซบุ๊กแต่ไม่สามารถระบุชื่อได้ เนื่องจากเกรงว่าอีกฝ่ายจะเดือดร้อน ซึ่งผู้ชาย คนนี้ได้ค่อยๆ ทยอยโอนเข้ามา และเงินก้อนนี้ตนจะหามาผ่อนคืนให้เดือนละ 5,000-10,000 บาท หลังจากนี้จะไปทำงานอยู่ที่หัวหิน

ต่อมา น.ส.ศศิประภา กล่าวว่า ตนได้ใช้บัตรATMธนาคารกรุงศรีอยุธยาของนายกิตติ อดีตสามี ถอนเงินสดจำนวน 80,000 บาทจริง ซึ่งถอนในวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 4 ครั้ง ครั้งละ 20,000 บาท โดยนำเงินดังกล่าวไปใช้หนี้และใช้จ่ายภายในครอบครัวรวมถึงจ่ายค่างวดรถจักรยานยนต์ที่ติดค้างชำระก่อนหน้านี้ และยินยอมที่จะชดใช้เงินคืนทั้งหมด โดยมีผู้ชายโอนเงินมาให้ตนจริงๆ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำทั้งสองฝ่ายไว้เป็นหลักฐานและจะทำการสอบปากคำนายกิตติเพิ่มเติมว่ามีความประสงค์ที่จะดำเนินคดีหรือไม่

ด้านนายอภินันท์ รัตนะวิศ ประธานหมู่บ้านปิยะวรารมย์3 กล่าวว่า หลังจากที่ทราบเรื่องการถอนเงินจำนวน 80,000 บาท ตนและนายกิตติ กลิ่นเกลี้ยง พร้อมด้วยนายอมต อินทา ได้ร่วมกันเปิดบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขา บัวทองสแควร์ เลขที่บัญชี 924-7-05721-0 เพื่อให้ผู้ที่มีความประสงค์ที่จะช่วยเหลือนายกิตติฯให้โอนเงินผ่านบัญชีนี้เท่านั้น