เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันที่ 5 พ.ย. กลุ่มวัยรุ่นชายยกพวกไล่ทำร้ายคู่อริจนบาดเจ็บ ก่อนหนีมารักษาตัวที่โรงพยาบาล กระทั่งถูกกลุ่มคนร้ายไล่ตามมา แล้วเข้าไปในห้องฉุกเฉิน จากนั้นได้ใช้ไม้เบสบอลตีต่อหน้าหมอและพยาบาล รวมทั้งคนไข้ที่อยู่ในโรงพยาบาล ขณะเดียวกันที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลได้มีคนยิงปืนถึง 15 นัด ก่อนที่ทั้งหมดจะหลบหนีไป ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย
นางพิชชาภา ผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า วันเกิดเหตุลูกสาวป่วยแพ้อาหารเฉียบพลัน ไปห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาล ระหว่างที่คุณหมอให้ยาน้อง เราก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ในใจก็คิดว่าต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแน่ เราก็ปรึกษากับแฟนว่าเราจะเป็นคนอุ้มลูก แล้วให้แฟนคอยถือสายน้ำเกลือ ขณะนั้นกลุ่มวัยรุ่นก็กรูเข้ามา เราสามคนเลยไปหลบอยู่ใต้เตียงตรงมุมห้อง เหตุการณ์ที่เราเห็นคือเขากำลังตีกันอยู่ ต่อมาก็มีเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด ทุกคนต่างหนีตายเอาตัวรอด ไม่ว่าจะเป็นคนไข้หรือ เจ้าหน้าที่ ซึ่งเราเองก็เข้าใจสถานการณ์ตอนนั้น
เราเหมือนอยู่ในสงครามอะไรซักอย่างที่เราไม่ควรมาเจอ ตกใจ และคิดว่าครั้งหน้าคงไม่มาที่นี่แล้ว และถ้าหลีกเลี่ยงการมาโรงพยาบาลกลางคืนได้ก็ต้องทำ เพราะขนาดห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาล เขายังกล้าเข้ามาตีกันถึงข้างใน ที่อื่นก็คงไม่ปลอดภัยแล้ว