จากการสอบสวนผู้เสียหายต่างระบุชื่อและนามสกุลจริง รวมทั้งชื่อเล่นได้ตรงกันว่าคือ นพ.จิรเดช เกตุรัตนกุล หรือ หมอดิว แต่เมื่อดูรูปถ่ายหมอแล้วผู้เสียหายกลับไม่แน่ใจ ไม่มีใครยืนยันว่าผู้ที่ทำการผ่าตัดจะเป็นนายแพทย์คนดังกล่าว พนักงานสอบสวนจึงได้ออกหมายเรียกหมอเพื่อมาทำการสอบปากคำ เพื่อจะได้สอบสวนว่าเป็นการแอบอ้างหรือสวมรอยใช้ชื่อหมอในการเปิดคลินิกเถื่อนและรักษาผู้ป่วยหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (2 พ.ย.) ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเย็น พนักงานสอบสวนใช้เวลานานกว่า 10 ชั่วโมง ในการสอบปากคำ น.ส.จันทร์จิรา ธิวงศ์เงิน อายุ 20 ปี ซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของ "ดีไวน์คลินิกเวชกรรม" คลินิกที่เกิดเหตุอย่างเคร่งเครียด หลังจากการสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ น.ส.จันทร์จิรา ธิวงศ์เงิน พร้อมกับพวก 3 คน และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดีไวน์คลินิก
โดยน.ส.จันทร์จิรา ธิวงศ์เงิน หุ้นส่วนผู้จัดการ ถูกตั้งข้อหาประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งน.ส.จันทร์จิรา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เพราะจำนนต่อเอกสารหลักฐานก่อนที่พนักงานสอบสวนจะให้ประกันตัวออกไปโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์
อย่างไรก็ตามยังมีผู้เสียหายจากการศัลยกรรมเสริมความงามจากคลินิกดังกล่าว ทยอยเข้ามาร้องทุกข์เพิ่มอีก รวมแล้วเกือบ 20 ราย ล่าสุดนายเต๋า อายุ 21 ปี ได้ผ่าตัดเสริมจมูกเสียค่าใช้จ่าย 5,500 บาท เมื่อเดือนสิงหาคม แต่ปรากฏว่าจมูกเกิดอักเสบบวมและเป็นหนองต้องกลับไปให้คลินิกแก้ไขถึง 2 ครั้ง แต่ก็ยังไม่หาย จนถึงวันนี้จมูกยังอักเสบแดงตรงปลายจมูกและมีหนองไหลออกมาในรูจมูกอีกด้วยด้วย
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปพูดคุยกับ นพ.จิรเดช เกตุรัตนกุล หรือ หมอดิว แพทย์ศัลยกรรมความงามและผิวหนัง ซึ่งถูกระบุว่ เป็นแพทย์ผู้ผ่าตัดเสริมหน้าอกให้"น้องกี้"นักศึกษาปริญญโทสาวประเภทสอง จนเสียชีวิตในคลินิกเถื่อนที่จ.ลำปาง
นพ.จิรเดช หรือหมอดิว ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคลินิกที่จ.ลำปางแต่อย่างใด โดยปกติทำงานประจำอยู่ที่คลินิก ในกรุงเทพมหานครเท่านั้น ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะถูกผู้ไม่หวังดี นำข้อมูล ใบประกอบวิชาชีพแพทย์ของตนเองไปสวมรอย แอบอ้าง อาจจะใช้วิธีตัดต่อรูปคนอื่นใส่เข้าไปแทนใบประกอบวิชาชีพของตน แล้วนำมาใช้ในการเปิดคลินิกเถื่อน
จากการคาดเดาของตน เชื่อว่าอาจจะได้ข้อมูลใบประกอบวิชาชีพ มาจากทางอีเมล์ ที่ใช้ในการติดต่องานกับหน่วยงานต่างๆ แต่ยังไม่ทราบจริงๆว่ามาจากที่ใด
นพ.จิรเดช ยืนยันอีกว่า ในวันเกิดเหตุของคดีนี้ วันที่ 28 ตุลาคม ตนทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯตามปกติ โดยออกจากคลินิกช่วงบ่าย ไปเดินห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างติดต่อขอภาพวงจรปิดจากทั้งคลินิกที่ทำงานและจากห้างสรรพสินค้า เพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันที่อยู่ของตนเอง ยืนยันว่าไม่เคยไปจ.ลำปางแม้แต่ครั้งเดียว หากเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบการเดินทางเที่ยวบินภายในประเทศ ในวันดังกล่าวก็น่าจะตรวจสอบได้ไม่ยาก เพราะวันนั้นตนไม่ได้เดินทางไปต่างจังหวัดไม่ว่าจะเป็นจังหวัดใด
หมอดิว กล่าวด้วยว่า จนถึงตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จ.ลำปาง ยังไม่ได้ประสานมาให้เข้าไปให้ปากคำแต่อย่างใด โดยส่วนตัวอยากเข้าไปให้ปากคำให้เร็วที่สุด เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง หลังจากที่ยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองเสร็จเรียบร้อยแล้ว เตรียมปรึกษากับทีมทนายความเพื่อดำเนินคดีกับคลินิกดังกล่าวฐานแอบอ้างให้ถึงที่สุดด้วย