ราชสกุล ราชวงศ์จักรี ร่วมส่งเสด็จ ร.9 ครั้งสุดท้าย


ในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ส่วนหนึ่งมีราชสกุลในราชวงศ์จักรีเข้าร่วม แต่ละราชสกุลส่งตัวแทนเข้าร่วมพิธีอันยิ่งใหญ่นี้ ล้วนแล้วแต่มาจากหลากหลายสาขาอาชีพ ต่างวัย แต่ทุกคนมาด้วยใจที่เปี่ยมไปด้วยความจงรักภักดี อยากจะแสดงออกให้ดีที่สุด เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ครั้งสุดท้าย

โดยมี ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ พล.ท.ม.ล.กุลชาติ ดิศกุล เป็นผู้รับผิดชอบในการประสานงานเหล่าสมาชิกราชสกุลท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ กล่าวในการประชุมสมาชิกราชสกุลที่เข้าร่วมพระราชพิธีครั้งนี้ว่า พระบรมวงศานุวงศ์

ราชสกุล ข้าราชบริพารในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แพทย์-พยาบาลผู้ที่เคยถวายงาน สมาคม องค์กร มูลนิธิ โรงเรียน ที่ได้รับคัดเลือกมาร่วมในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศในครั้งนี้นับว่าโชคดีที่สุดที่ได้เกิดมาภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร เกิดในรัชสมัยรัชกาลที่ 9 นับว่าทุกคนโชคดีจริงๆ คณะกรรมการได้ทำการคัดสรรผู้ที่ได้รับหน้าที่อันทรงเกียรตินี้เป็นอย่างดีที่สุด

ขณะที่ พล.ท.ม.ล.กุลชาติ ดิศกุล ในฐานะผู้ประสานงานราชสกุลทุกมหาสาขา กล่าวถึงหลักการคัดเลือกพระประยูรญาติในการเข้าร่วมในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศว่า ครั้งนี้มีราชสกุลทุกมหาสาขาเข้าร่วมเดินประมาณ 80 ราชสกุล จากทั้งหมด 129 ราชสกุล แต่ไม่มีผู้สืบทอดประมาณ 18 ราชสกุล การพิจารณานั้นคณะกรรมการจะพิจารณา 2 เรื่องด้วยกัน ประกอบด้วย 1.คัดเลือกจากผู้ที่เคยร่วมในพระราชพิธีริ้วขบวนพระราชอิสริยยศในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และ 2.ดูความเหมาะสมในเรื่องของพระชันษา เพราะหม่อมเจ้าบางพระองค์ทรงมีชันษามากแล้ว ไม่สามารถอยู่ในริ้วขบวนได้เป็นเวลานาน

ในการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศของพระราชวงศ์และราชสกุล ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทุกครั้ง การซ้อมริ้วขบวนที่ 2-5 มีผู้แทนราชสกุลต่างๆ ร่วมขบวน

ริ้วขบวนที่ 2 เป็นริ้วเชิญพระมหาพิชัยราชรถทรงพระบรมศพเคลื่อนจากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ไปยังมณฑลพระราชพิธีท้องสนามหลวง ริ้วขบวนที่ 3 เชิญพระบรมโกศพระบรมศพเวียนรอบพระเมรุมาศโดยอุตราวัฏ (เวียนซ้าย) ริ้วขบวนที่ 4 เชิญพระบรมอัฐิและพระบรมราชสรีรางคารประดิษฐาน ณ พระบรมมหาราชวัง และริ้วขบวนที่ 5 เชิญพระบรมอัฐิโดยพระที่นั่งราเชนทรยานไปยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท

เหล่าสมาชิกราชสกุลได้เข้าร่วมฝึกซ้อมหลายครั้ง มีตั้งแต่อายุ 20 กว่า ไปจนถึง 70 กว่า โดยการดูแลของ พล.ต.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.กองพลทหารราบที่ 11 ที่เคยกล่าวกับสมาชิกราชสกุลในการฝึกซ้อม

ครั้งหนึ่งว่า งานนี้ขอถวายชีวิตเพื่อให้งานออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

ดังนั้น เพื่อให้มั่นใจที่สุดเท่าที่จะทำได้ว่าริ้วขบวนจะต้องสง่างามสมพระเกียรติ โดยในวันพระราชพิธีเหล่าสมาชิกจะต้องแต่งกายด้วยชุดขอเฝ้า หรือชุดไทยจิตรลดา เจ้าหน้าที่ได้แบ่งการจัดแถวให้เป็นระเบียบ โดยจัดเรียงตามชั้นยศ อาทิ มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก ประถมาภรณ์ช้างเผือก และประถมาภรณ์มงกุฎไทย และเรียงตามส่วนสูง

การฝึกซ้อมเริ่มตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน การยืนตรง การวางมือ ซ้ายหัน ขวาหัน วันทยาหัตถ์ ถอนสายบัว การซ้อมเดินในแถว การเตรียมร่างกายให้พร้อม อาหารที่กินก่อนช่วงพระราชพิธีไม่ควรกินอาหารแปลกๆ ที่ไม่เคยกิน เพราะอาจปวดท้องในระหว่างการร่วมเดินริ้วขบวน

นอกจากนี้ยังมีการเตรียมร่างกายให้พร้อม หลับพักผ่อนให้เพียงพอ แม้แต่การทานยาบำรุงต่างๆ การแต่งกาย ทรงผม การซักซ้อมการเดินทาง การเตรียมรถยนต์ บัตรจอดรถ กำหนดให้มาลงเรือที่ธนาคารแห่งประเทศไทยหรือแบงก์ชาติ จากเดิมช่วงซ้อม นัดเวลาตี 4 เพื่อเดินทางเข้าไปยังจุดนัดหมายบริเวณท้องสนามหลวง แต่ตอนหลังมีการปรับเวลาให้เหมาะสมมากขึ้น

สำหรับบรรยากาศการซ้อมในแต่ละครั้ง จะมีเหล่าสมาชิกราชสกุลมาร่วมฝึกซ้อมจำนวนมากกว่า 200 คน จากหลากหลายราชสกุล อาทิ ยุคล, จิตรพงศ์, บริพัตร, ศุขสวัสดิ์, เทพหัสดิน, พึ่งบุญ, สังขทัต, มาลากุล, สนิทวงศ์, อมาตยกุล, กำภู, วรวรรณ, ชยางกูร, อาภากร, ทินกร, นวรัตน์, นันทวัน, ลดาวัลย์, ชมภูนุท, ชุมสาย, เกษมศรี, เทวกุล, จรูญโรจน์, กิติยากร, สิงหรา, ฉัตรชัย, ภาณุพันธ์, ปราโมช, เพ็ญพัฒน์, ดิศกุล, ไชยันต์, ประวิตร, ชุมพล, สวัสดิวัฒน์, กัลยาณวงศ์, สายสนั่น เป็นต้น


ราชสกุล ราชวงศ์จักรี ร่วมส่งเสด็จ ร.9 ครั้งสุดท้าย


สมาชิกราชสกุลที่เข้าร่วมพระราชพิธีครั้งนี้ ได้เล่าถึงการทุ่มเทสำหรับพระราชพิธีนี้อย่างเต็มที่ อย่างเช่น พล.อ.ต.หญิงสุรีย์พร บุญจง อายุ 72 ปี เล่าถึงความรู้สึกที่ได้มีส่วนร่วมพระราชพิธีอันสำคัญนี้ ว่า ในความรู้สึกส่วนตัว อยากทำอะไรให้พระองค์ท่าน เพราะสิ่งที่พระองค์ท่านทำให้กับประชาชนประเทศชาติมากมายเหลือเกิน ขณะที่เรามาร่วมงานนี้ไม่กี่ชั่วโมง และพระองค์ท่านทรงงานจนเหงื่อไหลเราก็ได้เห็นพระองค์ท่านทรงเหน็ดเหนื่อยเพียงใด การได้มาร่วมตามตารางการฝึกจากทหาร ก็จะทำให้เราสุขภาพดีไปด้วย เพราะต้องเตรียมตัวให้สุขภาพดี พักผ่อนเต็มที่ ออกกำลังกาย พยายามยืดกล้ามเนื้อ บริหารกล้ามเนื้อ เพื่อช่วยพยุงข้อเข่า

"อยากฝากถึงคนไทยทุกคนให้มีความสามัคคีกันไว้ ตามคำสอนของพระองค์ท่าน ให้คิดถึงหน้าที่ของตัวเอง ทำหน้าที่ในฐานะพลเมืองที่ดี อย่าเรียกร้องสิทธิต่างๆ แต่ไม่คำนึงถึงหน้าที่" พล.อ.ต.หญิงสุรีย์พรกล่าว


ราชสกุล ราชวงศ์จักรี ร่วมส่งเสด็จ ร.9 ครั้งสุดท้าย


ขณะที่ม.ล.วันชัย นวรัตน์ วัย 76 ปี เล่าถึงความรู้สึกว่า เป็นความภาคภูมิใจอย่างสูงสุดในชีวิตที่ได้เข้าร่วมพระราชพิธีครั้งนี้ เรื่องสุขภาพไม่เป็นปัญหา เพราะปกติออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้ว เมื่อก่อนขี่จักรยานครั้งละ 40-50 กม. ตอนนี้ทุกเช้าเมื่อตื่นนอนจะนอนบิดขี้เกียจเต็มที่ และจะนอนยกขาขึ้นถีบจักรยานอากาศสักพัก เพื่อให้เลือดไหลเวียนลงมา จะช่วยให้มีกำลังขามากขึ้น ทุกครั้งหลังการซ้อมแม้ว่าจะต้องยืนเป็นเวลานานกลางแดดก็ไม่มีปัญหา ส่วนหนึ่งเพราะเมื่อครั้งสมัยหนุ่มเคยมีโอกาสได้เต้นลีลาศ ทำให้กล้ามเนื้อขาไม่มีปัญหา
"ถือว่าเป็นโชคดีของคนไทยที่มีพระมหากษัตริย์ที่ทรงทำเพื่อประชาชนของพระองค์เช่นนี้ สิ่งที่พระองค์ท่านทรงทำให้กับประชาชนคนไทย เป็นสิ่งที่ทุกคนควรเทิดทูนไว้และนำไปปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์" ม.ล.วันชัยกล่าว

ราชสกุล ราชวงศ์จักรี ร่วมส่งเสด็จ ร.9 ครั้งสุดท้าย

ส่วน นายโดมินิก ภูวสวัสดิ์ จักรพงษ์ ชายหนุ่มลูกครึ่งวัย 26 ปี น้องชายของฮิวโก้นักร้องชื่อดัง ทำงานในมูลนิธิทางด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในด้านสิทธิมนุษยธรรม มีสำนักงานในกรุงเทพฯ และทั่วโลก ได้เล่าถึงความรู้สึกว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมเดินในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ในคราวนี้

ในฐานะตัวแทนของราชสกุลจักรพงษ์ ผมเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ เกิดและเติบโตในอังกฤษ แต่ผมมีความผูกพันกับประเทศไทยมาก และภูมิใจมากที่มีโอกาสเดินในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศเพื่อในหลวงครั้งนี้ นี่คือโอกาสครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตของผมที่เป็นส่วนอันน้อยนิดของพระราชพิธีนี้ ผมดีใจและเป็นเกียรติที่ได้เป็นผู้แทนจากราชสกุลจักรพงษ์ ซึ่งผมไม่เคยได้ร่วมมาก่อนเลย นี่คือประสบการณ์ครั้งสำคัญที่ผมจะจดจำไปตลอดชีวิต

ผมได้พยายามเตรียมตัวเองทั้งทางกายและใจเพื่อเข้าร่วมในการพระราชพิธีครั้งนี้ รวมทั้งฝึกการจำจังหวะการเดินในริ้วขบวนอยู่เสมอ เพื่อให้เกิดความมั่นใจอย่างที่สุด เพื่อถวายพระเกียรติยศแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 อย่างเต็มที่ เจ้าหน้าที่จากกรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ได้ฝึกซ้อมพวกเราเป็นอย่างดี ให้พวกเราเดินอย่างพร้อมเพรียงกัน ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ร่วมเดินในกลุ่มของเรา พวกเราฝึกฝนกันอย่างหนักมาก

การได้ร่วมเดินในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ขบวนที่ 3 เวียนรอบพระเมรุมาศโดยอุตราวัฏนั้น ทำให้ได้เห็นความยิ่งใหญ่อลังการของสถาปัตยกรรมไทยที่เป็นพระเมรุมาศที่ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลยในชีวิต การได้ร่วมในงานพระราชพิธีนี้และได้เห็นความวิจิตรของพระที่นั่งทรงธรรมและสิ่งก่อสร้างประกอบพระเมรุมาศในครั้งนี้ในระยะใกล้ๆ แสดงให้เห็นถึงความทรงพลังของบางสิ่งที่ผมจะไม่มีวันลืมเลยในชีวิตนี้

"การร่วมเดินในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศครั้งนี้ เป็นโอกาสพิเศษที่ได้รวมตัวกันกับบุคคลมากมายเพื่อรำลึกถึงพระองค์ เพื่อให้พระราชพิธีครั้งนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ตามโบราณราชประเพณี ผมได้เห็นประชาชนทั่วไปมานั่งชมการซ้อมของพวกเราอันแสดงถึงความรักความศรัทธาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 อย่างเปี่ยมล้นไปด้วยความอาลัยรักในพระองค์"

นายโดมินิกกล่าวแทนคนไทยทั้งประเทศที่ยังรัก ศรัทธา และอาลัยในรัชกาลที่ 9

 


ราชสกุล ราชวงศ์จักรี ร่วมส่งเสด็จ ร.9 ครั้งสุดท้าย

Cr.matichon

พล.อ.ต.หญิงสุรีย์พร บุญจง

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์