ล่าสุด นิสิตชายที่ถูกเพจดังกล่าวอ้างว่าเป็นคนชนแล้วหนีเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว "เดลินิวส์ออนไลน์" ทั้งน้ำตาว่า คนขับรถเป็นพ่อของตน ขณะเกิดเหตุตกใจจึงขับหนีโดยที่ไม่ได้ช่วยเหลือ ก่อนที่จะตั้งสติได้และไปสอบปากคำที่ สภ.กำแพงแสน และได้ออกค่ารักษาพยาบาลให้กับรถซาเล้งคันดังกล่าว พร้อมยินดีจะซื้อรถคันใหม่ให้ การที่เพจดังกล่าวนำรูปภาพพร้อมข้อความไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์ทำให้หลายคนเข้าใจผิดและเสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก
ด้าน ร.ต.ท.หญิงลักษิกา ชื่นชูกลิ่น รอง สว.(สอบสวน) สภ.กำแพงแสน เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุ นายอำนวย ตั้งอำพลตรีผล อายุ 59 ปี คนขับรถเก๋งได้เดินทางมาสอบปากคำที่ สภ.กำแพงแสน ให้การว่า ขับรถเฉี่ยวชนรถซาเล้งจนทำให้เสียหลักพลิกคว่ำไปที่ข้างทาง ก่อนจะตกใจและขับรถออกไปโดยที่ไม่ได้ช่วยเหลือ ก่อนจะติดต่อมาหาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเข้าไปเยี่ยมผู้ป่วย พร้อมออกค่ารักษาอาการบาดเจ็บให้ทั้งหมด จากที่เพจดังกล่าวอ้างว่ารถคันดังกล่าวมีนิสิตชายเป็นผู้ขับนั้นทางตำรวจไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากมีพยานหลักฐานไม่เพียงพอ อีกทั้งนายอำนวยได้เดินทางมาให้สอบปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
อย่างไรก็ตาม รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ กรรมการสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว "เดลินิวส์ออนไลน์" เพิ่มเติมว่า ทางมหาวิทยาลัยได้สอบถามข้อเท็จจริงกับนิสิตชายที่ถูกอ้างว่าขับรถชนแล้ว ทราบว่าในวันเกิดเหตุพ่อเป็นผู้ขับรถ สาเหตุที่ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นรถของนิสิตชายนั้น เนื่องจากเคยขับรถคันดังกล่าวไปมหาวิทยาลัยอยู่บ่อยครั้ง สำหรับกรณีที่กลุ่มนิสิตหญิงเข้าไปแสดงความคิดเห็นจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์นั้น ขณะนี้ได้สำนึกผิดแล้วและจะทำหนังสือแถลงการณ์เพื่อขอโทษที่ทำให้สถาบันเสื่อมเสียงชื่อเสียง.