ความคืบหน้ากรณีภรรยาหลวงติดตั้งตัวติดตามสัญญาณจีพีเอส ไว้กับรถยนต์เบนซ์ของผู้เป็นสามี แล้วขับติดตามจนพบว่าสามีมากับสาวจึงขับรถยนต์โตโยต้ารุ่นฟอร์จูนเนอร์พุ่งชน จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและรถยนต์ได้รับความเสียหายหลายคัน ส่วนสาวที่นั่งมาด้วยนั้นได้รับบาดเจ็บแขนขวาหักถูกนำตัวส่งร.พ.เปาโลรังสิต เหตุเกิดบริเวณถนนรังสิต-นครนายก ช่วงสะพานคลอง 4 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ หมู่ 2 ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เวลา16.00น.ของวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา
เมื่อวันนี้ 16 พฤษภาคม ที่โรงพยาบาลบางปะกอกรังสิต2 ห้อง3205ชั้น2 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายพีรพงษ์ หนูช่วย อายุ39ปี นศ.ปริญญาเอกพระจอมเกล้าธนบุรี ยังคงนอนรักษาตัวอยู่เพราะบาดแผลที่ใบหน้าเย็บ18เข็มจากอุบัติเหตุครั้งนี้ยังคงบวมอยู่และแผลยังไม่แห้งสนิท แพทย์ต้องฉีดยาแก้ปวดให้อย่างต่อเนื่องเพราะคนไข้มีอาการปวด
นายพีรพงษ์ หนูช่วย อายุ39ปี เปิดเผยว่าคืนที่ผ่านมามีผู้หญิงที่เป็นน้องสาวของผู้ขับขี่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้ารุ่นฟอร์จูนเนอร์สีดำได้เข้ามาขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแสดงความรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วแต่ก็ยังไม่ได้มีการตกลงอะไรกันก่อนที่หญิงดังกล่าวจะเดินทางกลับ ซึ่งขณะที่รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า อาเวนซ่า สีขาว ทะเบียน กง-797 ชุมพร ที่ตนเองนั่งมาแล้วประสบเหตุก็ยังไม่ได้มีการซ่อมแซมเพราะต้องรอสำนวนคดีของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนบริษัทประกันของคู่กรณีจึงจะพิจารณาซ่อมแซมให้ตอนนี้รถยนต์ก็ทำได้แค่เพียงจอดไว้ในอู่ซ่อมรถ
"ในส่วนของการรักษาอาการบาดเจ็บตอนนี้ยังใช้สิทธิ์พรบ.รถยนต์อยู่และจะต้องมีการทำศัยกรรมบาดแผลที่เป็นรอยเย็บที่ใบหน้ากับศูนย์เชอร์รี่หรือศูนย์ศัลยกรรมของทางโรงพยาบาลบางปะกอกรังสิต2อีกต่อเนื่อง ผมไม่ได้โกรธแค้นอะไรกับผู้ขับขี่รถยนต์โตโยต้ารุ่นฟอร์จูนเนอร์สีดำ ที่เป็นคู่กรณีแต่อยากให้มารับผิดชอบและมาซ่อมแซมรถยนต์ให้กับผมเพื่อจะได้กับไปทำงาน ส่วนเพื่อนที่นั่งรถยนต์มาด้วย นายเทียนทอง ยวงแก้ว อายุ28ปี นศ.มหาลัยขอนแก่น มีอาการปวดข้อเท้าซ้ายร้าวมีอาการปวดแพทย์ต้องให้นอนรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาล"นายพีรพงษ์กล่าว
พ.ต.อ.ธีรวัจน์ ขจรเกียรติภาส ผกก.สภ.ธัญบุรี กล่าวว่าได้สอบสวนปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ไปแล้วทั้งหมด 9 ปาก ร่วมถึงนายอัครพรธ์ เหมือนบุญส่ง อายุ 36 ปีผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 4กษ 3104 กทม.แล้ว ซึ่งนายอัครพนธ์ ให้การว่าในขณะเกิดเหตุนายอัครพนธ์ ได้ขับรถมา มีรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ของน.ส.อทิชา ทองนันไชย อายุ 35 ปี ภรรยา ขับตามมาด้านหลังติดๆ มุ่งหน้าไปรังสิต พอถึงที่เกิดเหตุรถของนายอัครพนธ์ เกิดเบรคกะทันหันทำให้รถของ น.ส.อทิชา ที่ขับตามหลังมาเกิดเบรคไม่ทันจึงได้ชนกันเข้าอย่างจัง จนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
พ.ต.อ.ธีรวัจน์กล่าวต่อว่าส่วนเรื่องของหญิงสาวที่นั่งมาพร้อมกับ นายอัครพนธ์ ได้แจ้งว่าเป็นเพียงเพื่อนร่วมงานที่ทำงานเดียวกันของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเท่านั้น ซึ่งทางเจ้าหน้าได้ แจ้งข้อกล่าวหากับ น.ส.อทิชา ทองนันไชย ผู้ต้องหา ว่าได้กระทำความผิดฐาน "ขับขี่รถโดยประมาทโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และมีทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนพยานและข้อเท็จจริงว่าการกระทำดังกล่าวเป็นจริงอย่างที่ทั้งสอง สามี ภรรยา ให้การหรือไม่ ถ้าหากพบพยานหลักฐานแน่ชัดว่า น.ส.อทิชาฯ ได้กระทำความผิดในข้อหาใดอีก ก็จะได้แจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีกับ น.ส.อทิชาฯ ตามกฎหมายทุกข้อหาต่อไป