ชิ้นส่วนรถยนต์และเศษอุปกรณ์ต่างๆกระจายเกลื่อน ร้านมินิมาร์ท ของปั๊มที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร กระจกแตก มีผู้บาดเจ็บ 2 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลธัญบุรีชื่อ นายวินัย พึ่งสาย อายุ 45 ปี ซึ่งนั่งมากับรถปิกอัพ ถูกเศษเหล็กและ กระจกบาดตามลำตัวและศีรษะ ส่วนผู้บาดเจ็บอีกคนชื่อนายคำสร แก้วกอง อายุ 18 ปี เป็นเด็กปั๊ม ถูกไฟลวกตาม ร่างกาย และเศษกระจกบาด อาการสาหัส
พร้อมกันนั้น พบนางวิมล เรือนใจดี อายุ 47 ปี ยืนอยู่ในอาการตกใจ ให้การว่า
มีอาชีพรับซื้อของเก่า ได้ขับรถนำของที่ซื้อมาไปขายต่อที่ร้านรับซื้อของเก่าตรงข้ามปั๊ม โดยตนเป็นคนขับ ส่วนนายวินัย สามี นั่งคู่มาตอนหน้า เสร็จแล้วได้ซื้อถังออกซิเจนเก่าเส้นผ่า ศูนย์กลางราว 7 นิ้ว สูงประมาณ 1.20 เมตร มา 1 ใบ และ ถังแก๊สขนาด 5 กิโลกรัม อีก 1 ใบ ราคารวม 782 บาท เพื่อจะนำไปใช้ที่บ้าน จากนั้นได้แวะมาเติมน้ำมัน โดยจอดรถดับเครื่องและดึงกุญแจส่งให้เด็กปั๊มไปไขเปิดฝาถังข้างรถ โดยตน กับสามีนั่งรออยู่ในรถ สักพักได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น รถกระดอนขึ้นมาทั้งคันและหลังคาปั๊มพังลงมาทับรถทั้งคัน ทำให้โดนกระแทกมึนงงไปหมด สามีได้บอกให้รีบ หนีออกจากรถ แต่ประตูเปิดไม่ได้ สามีต้องเอาเศษหลังคาที่พังลงมาทับบางส่วนออกก่อน จึงเปิดประตูออกมาได้ ขณะเดียวกันมีเด็กปั๊มและชาวบ้านนำถังน้ำยาดับเพลิงมาฉีดสกัดเพลิงที่ลุกไหม้ที่กระบะหลังจนไฟดับ
ส่วนนายคำสร แก้วกอง เด็กปั๊ม ให้การว่า
เมื่อนาง วิมลขับรถเข้ามาจอดที่หน้าตู้จ่ายน้ำมัน ก็เดินไปฝั่งคนขับ รับกุญแจมาเพื่อเปิดฝาถังข้างรถเติมน้ำมันดีเซล แต่ยังไม่ ทันเสียบกุญแจก็เกิดระเบิดขึ้นที่กระบะท้าย พร้อมกับไฟ ลุกขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุ แรงระเบิดทำให้กระเด็น หงายท้อง และโดนไฟลวกตามร่างกาย เมื่อตั้งสติได้ก็รีบวิ่งหนี
ด้าน พล.ต.ต.ประพันธ์ พานิคม ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี กล่าวว่า
จากการตรวจที่เกิดเหตุและสอบสวนพยาน ไม่มีใครทำให้เกิดประกายไฟ แต่พบว่าถังแก๊สทะลุ ส่วนถัง ออกซิเจนระเบิด สันนิษฐานว่า ถังทั้ง 2 ใบ ยังมีแก๊สและ ออกซิเจนเหลืออยู่ได้รั่วออกมาและถังเสียดสีกัน อีกทั้งได้รับความกระทบกระเทือนระหว่างบรรทุก ประกอบกับ อากาศร้อนทำให้เกิดปฏิกิริยาระเบิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้อง ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงอย่าง ละเอียดอีกครั้ง