
ปรีดี พนมยงค์ ได้รับดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2489 หลังการลาออกของ ควง อภัยวงศ์ แต่เหตุการณ์สวรรคตกระทันหันของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลในที่บรรทมอย่างเป็นปริศนาเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนปีเดียวกัน ทำให้ความไว้เนื้อเชื่อใจในฐานะผู้พิทักษ์บัลลังก์ของปรีดีเป็นปัญหา และตัวเขาเองก็ถูกนำไปเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย เพื่อรักษาอิทธิพลทางการเมืองเอาไว้ ปรีดีจึงตัดสินใจลาออก ให้พลเรือตรี หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์เข้ารับตำแหน่งแทน
แต่รัฐบาลใหม่ของหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ก็อยู่ได้ไม่นาน พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะฝ่ายค้านได้โจมตีรัฐบาลถึงความล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และการที่ไม่สามารถคลี่คลายกรณีสวรรคตของรัชกาลที่ 8 ได้ หลังถูกอภิปรายในสภานาน 7 วัน แม้รัฐบาลจะได้รับคะแนนเสียงไว้วางใจ แต่หลวงธำรงฯก็ตัดสินใจลาออกเพื่อตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งหลวงธำรงฯก็ยังคงได้เป็นผู้นำรัฐบาลดังเดิมและสามารถอยู่ในอำนาจได้ราว 5 เดือน ก่อนถูกจอมพลผิน ชุณหะวัณกับพวกทำรัฐประหารในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2490
หลังการรัฐประหารกองทัพบกได้เชิญตัว ควง อภัยวงศ์อดีตนายกรัฐมนตรีเข้ามารับตำแหน่งอีกครั้งในรัฐบาลชั่วคราว เพื่อป้องกันข้อครหาว่ายึดอำนาจเพื่อ "ครอบครองอำนาจ" เสียเอง หลังการเลือกตั้งในเดือนมกราคม 2491 ควง ได้รับเสียงข้างมากรับรองให้ครองตำแหน่งนายกฯต่อไป แต่เขาก็อยู่ในตำแหน่งได้เพียงถึงเดือนเมษายนปีเดียวกันเมื่อผู้นำคณะรัฐประหารได้ "จี้บังคับ" ให้ควงลาออก เพื่อให้ จอมพล ป. พิบูลสงคราม กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
ด้าน ปรีดี หลังการรัฐประหารในปี 2490 เขาได้หลบหนีออกนอกประเทศและพยายามรวบรวมกำลังเพื่อรอจังหวะยึดอำนาจคืนอีกครั้ง ขณะที่คณะรัฐประหาร (2490) ก็ได้เตรียมความพร้อมรับมือการรัฐประหารซ้อนอย่างแข็งขัน โดยอ้างว่ามีผู้เตรียมนำรถถังออกมายึดอำนาจพวกตน จึงได้ประกาศกฎอัยการศึกในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2492 และได้มีการซ้อมรบหลายครั้ง
ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2492 ระหว่างการซ้อมรบของกองทัพบกและกองทัพเรือ ฝ่ายของปรีดีได้บุกยึดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพื่อใช้เป็นกองบัญชาการ และอีกส่วนได้บุกยึดสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย ออกประกาศปลด จอมพล ป. จากทุกตำแหน่ง และให้ดิเรก ชัยนามรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกันลูกน้องอีกส่วนของปรีดีก็ได้เข้ายึดพระบรมมหาราชวังและเตรียมการต่อสู้กับกองทัพบก
อย่างไรก็ดี แผนการที่จะก่อให้เกิดจลาจลในจังหวัดต่างๆ เพื่อเรียกให้กองทัพเรือจากสัตหีบเข้ากรุงเทพฯ ต้องล้มเหลว เมื่อผู้นำเสรีไทยส่วนใหญ่ในภาคอีสานถูกกองทัพบกจับตัวไว้ได้ก่อน ขณะที่กำลังเสริมของกองทัพเรือก็มาไม่ถึงเนื่องจาก "เรือเกยตื้น" อยู่ที่บางปะกงเพราะน้ำลง
พลโทสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 (ยศและตำแหน่งในขณะนั้น) ได้รับมอบหมายให้ปราบกบฏ ซึ่งสฤษดิ์ทำหน้าที่ได้อย่างรวดเร็วเฉียบขาด เขาสั่งให้รถถังปิดล้อมพวกของปรีดีซึ่งยึดพระราชวังอยู่ และใช้กำลังทหารบุกเข้าตีกลุ่มกบฏแตกพ่ายไป ทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้ถูกเรียกขานกันว่าเป็น "กบฏวังหลวง"
หลังจากนั้นการปราบปรามกลุ่มอิทธิพลของปรีดีเป็นไปอย่างรุนแรง เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2492 สี่รัฐมนตรีประกอบด้วย ถวิล อุดล (ผู้นำเสรีไทยประจำร้อยเอ็ด) ทองเปลว ชลภูมิ์ (เลขานุการของปรีดี) จำลอง ดาวเรือง (ผู้นำเสรีไทยมหาสารคาม) และทองอินทร์ ภูริพัฒน์ (ผู้นำเสรีไทยอุบลราชธานี) ถูกสังหารระหว่างการเคลื่อนย้ายเรือนจำขณะอยู่ในความควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทางตำรวจโดย เผ่า ศรียานนท์ ได้ออกมาอ้างว่าเป็นฝีมือของฝ่ายเสรีไทยเองที่พยายามชิงตัวนักโทษ
ด้านปรีดี หลังพ่ายแพ้ในการยึดอำนาจในครั้งนี้ทำให้เขาต้องหลบหนีออกจากประเทศอีกครั้งอย่างถาวร
ทั้งนี้ ปรีดี เองมองว่าการเรียกขบวนการประชาธิปไตย 26 กุมภาพันธ์ 2492 ว่า "ขบถวังหลวง" นั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะพวกเขามีวัตถุประสงค์ที่จะรื้อฟื้นประชาธิปไตยคืนจากฝ่ายรัฐประหาร 2490 ซึ่งเป็นรัฐบาลนอกกฎหมาย และรัฐธรรมที่รู้จักกันในชื่อ "รัฐธรรมนูญฉบับใต้ตุ่ม" (ฝ่ายรัฐประหาร 2490 ได้ทำรัฐธรรมและซ่อนไว้ใต้ตุ่มจึงทำให้ได้ชื่อนี้มา) นอกจากจะมีเนื้อหาไม่เป็นประชาธิปไตยแล้ว ยังเป็นโมฆะเพราะขาดผู้มีอำนาจลงรายมือชื่อรับรอง


กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday