"ผมจะทำให้มันจนกว่าขอทานให้ได้" กำลังเป็นประโยคเด็ด จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. ป.ป.ส. สนธิกำลังเข้าตรวจค้นหลายจุดที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดนายไซซะนะ แก้วพิมพา ไฮโซชาวลาว และเหว่ย เซียะ กัง โดยจุดสำคัญเป็นร้านแต่งรถของนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง อายุ 30 ปี สามี น.ส.ณปภา ตันตระกูล หรือแพท นางเอกชื่อดังที่กำลังตั้งครรภ์
โดยพล.ต.ท. สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) ได้ให้สัมภาษณ์ ตอนหนึ่งว่า
"วันนี้เนี่ยเราต้องการให้ลูกหลานเราอยู่เย็นเป็นสุข คนพวกนี้ทำลายลูกหลาน ทำลายครอบครัวของพวกเราที่หาเช้ากินค่ำมานานแล้ว เอาเงินของคนจนไปซื้อรถหรู แล้วมาอวดคนจนอีก มันเหยียบย่ำหัวใจเราเกินไปแล้วนะครับ ผมคิดอย่างนั้นนะครับ เพราะฉะนั้น ผมยืนยันว่า ผมจะทำให้มันจนกว่าขอทานให้ได้"
เป็นผลทำให้ชื่อของ พล.ต.ท. สมหมาย กองวิสัยสุข อยู่ในความสนใจของประชาชน
เว็บไซต์ policenewsvarieties.com ได้เผยเเพร่บทสัมภาษณ์ของ พล.ต.ท. สมหมาย กองวิสัยสุข เคยเป็นรองผบช.ก. หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีนางไก่ นางกิมเอ็ง 2 พี่น้องนักตุ๋นตัวร้ายระดับชาติมาก่อน โดยบทสัมภาษณ์ระบุว่า
"พี่เป็นคนกรุงเทพฯ แต่มีเชื้อสายอยุธยา คน อ.มหาราช ที่มาเป็นตำรวจ น่าจะเป็นเรื่องของสวรรค์รึเปล่า ไม่ได้จบโรงเรียนเตรียมทหารนะ จบโรงเรียนนายร้อย จบจากโรงเรียนเซนต์จอห์น จบเทศบาลวัดมกุฎฯ สมัยนั้นเป็นเทศบาลวัดมกุฎฯ เป็นโรงเรียนของ กทม. ถามว่าทำไมถึงมาเป็นตำรวจ คงเพราะ พ่อแม่เป็นพ่อค้าแม่ค้า ก็ถูกตำรวจกดดันมาตลอด พ่อแม่ก็ค้าขายอยู่ที่สะพานใหม่ ยิ่งเจริญ ถึงเวลา ตำรวจมาขอโน่นนี่ พ่อก็ต้องให้ แม่ก็ต้องให้ แม่ตื่นตี 4 มาทำมาค้าขายกว่าจะได้เข้าบ้านก็ทุ่มกว่าๆ ก็มีความรู้สึกว่าชาวบ้านเขาทำมาหากิน ทำไมตำรวจต้องไปกดดันเขาแบบนี้ สมัยก่อนโดนเลย ว่าต้องให้อะไร ตำรวจอยากกินอะไรก็หยิบไปเลย ที่บ้านขายอาหารทะเล พวกของแห้ง"
แล้วตลาดยิ่งเจริญ เนี่ย ข้างหลังมันเป็นกองทัพอากาศ พวก สห.เกเร อะไรต่างๆ ก็จะมีเยอะ มือปืนเยอะ เพื่อนๆ ก็เกเร เยอะเหมือนกัน ชวนมาดูดกัญชา ชวนมาฉีดผง แต่เราไม่เอาด้วย มันอันตราย ก็โชคดีที่เราไม่เคยโดนข่มขู่ แต่ถ้าโดนพี่ก็สู้นะ ถ้าตำรวจมา พี่ไม่กลัว ไม่เคยกลัวเลยจริง พี่สวนเลย ไม่กลัว มันก็เลยมีความรู้สึกว่า ถ้าเรามีโอกาส เราต้องทำให้ดี แม่จะสอนว่า อย่าไปเอาเงินใครเขานะลูก ให้มาเอากับแม่ เราหาเช้ากินค่ำ แต่ก็ไม่ไปทำความลำบากให้กับใครเขา เราไม่ใช่ลูกคนรวย แต่เราก็อยู่ได้ แม่ก็ส่งลูกเรียนได้ตลอด
พี่น้องพี่มี 5 คน พี่เป็นลูกคนที่ 3 โดย 2 คนแรกตาย และคนสุดท้ายตาย เหลือน้องชายกับพี่ ซึ่งตอนนี้น้องชายก็ตายแล้ว ตอนนี้เหลือพี่คนเดียว ส่วน ตอนนี้แม่ยังอยู่ แต่พ่อเสียแล้ว พ่อเนี่ย สมัยอยู่อยุธยา อ.มหาราช พ่ออยู่โรงสีนะ แล้วครอบครัวพ่อพี่เนี่ย เขามีที่นาอยู่ที่มหาราช ปู่ ย่า ก็ทำปลาร้าขาย ส่งที่กรุงเทพฯ มากับเรือ ก็ถูกปล้นบ้าง อะไรบ้าง พ่อต้องหนีไปสมัครเป็นทหาร รบในเกาหลี เพราะช่วงนั้นถ้าไม่ไปก็ตาย โดนกวาดล้าง เพราะว่าพ่อเป็นญาติเสือขาว เสือทวย เสือเทพ แล้วพ่อก็เป็นหลงจู้เรือบรรทุกข้าวโรงสี เขาก็ค่อนข้างจะเป็นมาเฟียพอสมควร น่านน้ำเจ้าพระยา เขาก็ไม่กลัวใคร เราก็เลยได้เขามา เราก็ไม่ค่อยกลัวใคร
พี่เรียนเทศบาลวัดมกุฎฯ ถึงแค่ ป.4 แล้วย้ายมาเรียน ป.5 ที่เซนต์จอห์น จนถึง มศ.5 เลย เป็นโรงเรียนประจำ ก็เรียนประจำอยู่พักหนึ่งแล้วค่อยนั่งรถสองแถวไปกลับ สมัยนั้นเซ็นทรัลฯ ยังไม่มี ตอนนั้นโรงเรียนช่างกลไทยสุริยะ ดัง แล้วก็มีไอ้ตรงนี้ ตรงเกษตรฯ เดี๋ยวนี้ปิดไปแล้ว โรงเรียนช่างกลไทยวิจิตรศิลป์ พวกนี้ ช่างอุตสาหกรรม ตีกันมากสมัยนั้น แต่พี่ไม่เคยกลัว ถ้าเจอก็ตีกัน ตีมาก็ตีไป แต่เราไม่ใช่นักเรียนเกเร แต่บางทีมันทนไม่ไหว เห็นเขาโดนตีก็ไปช่วยเขา เราไม่เคยกลัว มาถึงก็มีพวกเต็มตลาดอยู่แล้ว พอจบ มศ.5 ก็ไปเข้าเรียนโรงเรียนนายร้อยฯ จบนรต.34 สมัครใจไปเป็น ตชด.แต่ พ่อแม่ก็เสียใจ เพราะไม่อยากให้ไป เพราะตอนนั้นรบกันอยู่ทางภาคอีสานมันมีคอมมิวนิสต์อยู่ พี่ก็เลยต้องมาขอเปลี่ยนไปอยู่ภูธร พี่เลยไปอยู่ที่สุรินทร์ โรงพักปราสาท
กำลังรบกันพอดีเลย ไปเป็นชุดคุ้มครองตำบล 3 ตำบล รบกับเขมรแดง พี่เป็นหัวหน้าหมวดโจมตีโดยถูกรับเลือกจากนายอำเภอ และผู้ว่าฯ เพราะตอนนั้นไม่มีนักเรียนนายร้อยหนุ่มๆ ตอนนั้นเขมรเข้ามาลึก ของเราคุมอาสาสมัคร ช่วงนั้นจะมีกองกำลังพระร่วง ของทหาร ก็ร่วมอยู่แถวนั้น คล้ายๆ ว่าเป็นผู้บังคับบัญชาเรา ลึกๆ คงพูดมากกว่านี้ไม่ได้ มันเยอะมาก มันมีอยู่ครั้งหนึ่งที่พี่รับไม่ได้ คือมันไปปล้นที่กาบเชิง เขาเรียกว่าบ้านอำปึง เขมรชุดดำขึ้นมาข่มขืนราษฎรไทยเสร็จมันก็เอามันสำปะหลังยัด พี่ไปดูที่เกิดเหตุแล้วรับไม่ได้เจอที่ไหนพี่ยิงที่นั่น มันตายเยอะมากเลย พี่บอกเลยว่าไม่ต้องคุยกันแล้ว มึงมาอาศัยประเทศเราอยู่แล้วยังทำอย่างนี้ อยู่ที่นั่น พี่ใส่เสื้อแขนสั้นติดดาว เป็นเม็ดๆ แล้วพี่ก็สะพายปืน 120 นัด เอชเค อย่างนี้ มีลูกระเบิด ขี่มอเตอร์ไซค์คนเดียว บอกว่าท่านรองเดี๋ยวตายนะ แต่ พี่ไปคนเดียว ไปลุย จนลูกน้องเตือน แต่พี่ไม่กลัว คิดว่าตายในหน้าที่ จะได้รู้ว่าจะตายไม่ตาย ตอนนั้นห้าว ไม่กลัวใคร เลยเนื้อหอมเลย เพราะความห้าว
แล้วพอช่วงจากหัวหน้าหน่วยโจมตี ก็เข้าโคราชเลย ตอนนั้นพี่ล้ำเลิศ ธรรมนิทธา เป็นสารวัตรใหญ่ที่ อ.ประสาท พี่เขาเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 20 พี่เป็นน้องเล็กที่เขารอมานานแล้ว พี่ล้ำเลิศ นี่ เขาก็ปราบน่าดูนะ โจรเขมรกลัว พี่เขายิงเอง แกไม่ใช้ซี้ซั้ว แล้วแกนี่สุภาพบุรุษตัวจริง คนรักทั้งอำเภอ แล้วแกก็มาเป็นสารวัตรใหญ่ อ.เมืองนครราชสีมา พี่ล้ำเลิศ ชวนไปอยู่ด้วยให้เป็นสายสืบ แต่พี่บอกพี่ไม่ชอบไปเก็บตังค์ พี่ไม่ถนัด ขอให้ผมเรียนรู้เยอะๆ เราก็ทำงาน พี่ล้ำเลิศ ก็ตั้งศูนย์สุรนารี เราก็ไปทำสายตรวจมอเตอร์ไซค์ สนุกมาก จับได้ทุกวัน เพราะสมัยนั้นโจรเยอะ นั่งดูปล้นกัน ปล้นเสร็จแล้วเราค่อยเข้าไปจับยังได้เลย
ไอดอลในการสืบสวนปราบปรามพี่ก็มีหลายคนนะ ในยุคนั้น ที่เราเห็น ก็มีขุนพันธ์คนหนึ่งแล้ว เราได้ยินกิติศัพท์ไม่เคยสัมผัส ตอนนั้น พี่ก็อ่านจากหนังสือนะ แล้วพี่มีความรู้สึกว่าพี่ไม่เชื่อว่าตำรวจนครบาลจะเก่งมาก อ่านข่าวแล้วสงสัย สืบเหนือ สืบใต้ จับเก่งมากเลย ทำไมยิงปุ๊บ รู้เลยว่าใคร พี่เลยขอผู้บังคับบัญชามานอนที่สืบเหนือ สืบใต้ มาดู คนที่พี่ศรัทธามากคนหนึ่ง คือ พี่ประมวลศักดิ์ ศรีสมบุญ เก่งจริงๆ เขาเก่งมาก แล้วที่สนิทกันจริงๆ มากๆ เลย พี่โต พีระ บุญเลี้ยง
ไปกินนอนกับเขาที่สืบเหนือ ไปกราบเขาเลยนะ เมตตาผมเถิด เขาก็บอกไปทำด้วยกัน เราก็ไปด้วย คือเราก็มาแบบเถื่อนๆ ไม่มีพวก มาคนเดียวเลย อยากรู้ไง ขออาทิตย์เลย เขาให้ไปซื้อก๋วยเตี๋ยว ก็ไปซื้อ ไปเฝ้าจุด ก็ไปหมด มาจับไอ้เล็ก ลำตะคอง ที่โชคชัย 4 พี่เฝ้าทั้งคืน ไม่ได้นอนเลย ก็ด่าลูกน้อง ตอนมันลงมา ขับรถปิกอัพสวน พี่ก็สวนไป พี่อยู่กระบะหลังพอดี ระหว่างที่รถสวนกันพี่กระโดดไปที่กระบะหลังรถมัน พี่ก็เอาปืนกระบอกนี่เคาะ บอกไอ้สัตว์มึงไม่หยุด กูยิงนะ ทุกคนก็นึกว่าพี่ถ่ายหนัง ถ้ามันไม่จอดพี่ยิงแน่เลย มันก็บอกว่ายอมแล้วๆ ตอนนั้นมากับพี่จำนง แก้วศิริ อดีตผู้การเชียงราย นี่แหละเบื้องหลังของเล็ก ลำตะคอง นี่แหละ ที่ฆ่าแล้วเผาที่เขาใหญ่ ตอนนั้นมันค้าลูกหมู ส่งเด็กไปขายยากูซ่า จับแถวคอมมานโด โชคชัย 4 ถนนนิดเดียว ในซอย แล้ววิ่งสวนกัน พี่นงค์ นี่ตกใจเลย
สุดท้ายเราก็รู้ ทำไมถึงเก่ง อ๋อ แม่งมีบ่อน แล้วพวกนี้อยู่ในบ่อน ทำอะไรมันก็จะรู้หมด ก็เลยเฉยๆ นึกว่าเขามีคอมพิวเตอร์ ระบบงานใหญ่ ฝีมือถ้าเทียบชั้นกัน ตามที่พี่ได้สัมผัสนะ เดอะหมู ฐิติราช ของเรานี่ ดีกว่านี่ทันสมัย ชัดเจน แตะปั๊บ จับต้องได้ สติปัญญาไอคิว 200 ไม่ใช่ 180 เลย เก่งมาก ต้องยอมรับ ไว เร็ว มีแต่ลูกน้องไม่ทันเขา แต่พี่ยังทันนะ คิดทันอยู่ พี่ก็เลย คิดว่าไปเอาคดีสำคัญๆ มาได้เรื่อย เราก็กะว่าจะต้องทันเพื่อนให้ได้ ไม่งั้นเราคิดไม่ทัน ก็ทำงานกันมา เขาก็มีความรู้สึกที่ดี อย่างนี้
พี่อยู่เบื้องหลังเยอะ ขึ้นสารวัตรที่ศูนย์สืบสวน กองสืบภาค 3 สารวัตรกองกำกับ 3 มีอยู่ 5 คน เขาเรียกกองกำกับสืบสวน กก.สส.บช.ภ.2 ตอนนั้น ปีประมาณ 2530 ป๋าบุญทิน เป็นผู้บัญชาการ ป๋าบุญทิน ใช้พี่สารพัด อย่างแคล้วนี่ ป๋าทิน ก็ให้พี่ไปจับ แคล้ว นั่งเล่นไพ่อยู่แถวตึก 4 ชั้น แถวประชาชื่น ตอนนั้นพี่ไม่รู้หรอก แคล้ว พี่ขึ้นไปก็ไปจับ ลากตัวใส่กุญแจมือเลย แคล้ว ตกใจ พี่จับมา คดีเช็ค จ่ายเช็ค เอาไปส่งโรงพัก ไอ้นี่พี่ก็จับนะ ไอ้สำลี หรือฝ้าย โคกาอิน มือปืนวัฒนา ร้องไห้ อย่างกับขี้หมู
พี่ก็เก็บข่าวอาชญากรรมทุกชนิดนะ พี่จะเก็บไว้ จะเป็นหนังสืออาชญากรรม 191 หนังสือพิมพ์พี่จะมานั่งตัดเองเก็บเอง เพราะพี่อยากรู้ว่าเขามีความสามารถอย่างไร เพราะเราไม่ใช่ตำรวจกรุงเทพฯ เราไม่รู้อย่างเขาหรอก พื้นที่ของเราคือโจร แต่ที่นี่เขาเรียกมาเฟีย หรือเจ้าพ่อ ถ้าเป็นเราก็เรียกโจร หัวหน้าโจร แก๊งโน้นแก๊งนี้ กรุงเทพฯ เรียกมาเฟีย เจ้าพ่อ หัวหน้าโจร โน่นนี่ ภูธรเรียกโจร เรารู้จักแต่โจร เราไม่รู้จักมาเฟีย เราตำรวจบ้านนอก ไม่เคยถูกฝึก ก็ยังคิดว่ามันดังได้ไงวะ มันต้องมาบอกป๋าทิน ไปถึงบ้านเลย ก็มาให้พวกเรานี่แหละทำ ทำไมใหญ่จังวะ เจ้าพ่อ เราก็พยายามพัฒนาตัวเอง และคนที่เราพัฒนาได้ พัฒนาที่ตัวเราก่อน เรามาจากบ้านนอก เรามาจากศูนย์ แต่เรื่องนักลงนักเลง เราไม่กลัวอยู่แล้ว ไม่กลัวใคร เราก็เติบโตในกรุงเทพฯ เราก็พอมีช่องทาง แต่คิดว่ามันดังได้ไง จากไม่รู้เรื่อง เราก็มานอน มากินอยู่กองสืบ มานั่งดู อ๋อ มันอย่างนี้เอง เพราะความอยากรู้
ขึ้นนายพลเป็นผู้การจ.บุรีรัมย์ อยู่ที่นั่น 6 เดือน แล้วก็ย้ายพี่มาเป็นผู้การอำนวยการ แล้วก็ย้ายไปอยู่เชียงใหม่ เป็นผู้การ ตอนเผาบ้านเผาเมืองกันนั่นแหละ พี่เป็นคนทำให้ศาลากลาง ไม่ถูกเผา เพราะพี่ไม่ยอม ก็เขาเผาอุบลฯ อุดรฯ ขอนแก่น คือ พี่เตือนทั้งหมดเลย เขาก็พูดในลักษณะว่า ของมึงดูให้ดีเถอะ แต่ของพี่ไม่ยอม ไม่ยอมให้ถูกเผา พี่สู้ตาย พี่บอกแล้ว ผู้ว่าฯ ถามจะเอาไง พี่ก็ขออนุญาต ประชุมตำรวจ ทั้ง ตชด.และหน่วยอื่นทั้งหมด บอกว่าในศาลากลางมีพระบรมฉายาลักษณ์ มีพระแสงดาบ เปรียบเสมือนพ่ออยู่
ก็เลยถามลูกน้องไปว่า ใครจะรบกับกูบ้าง ใครจะตายกับกูบ้าง กูจะตายในเครื่องแบบ พล.ต.ต. พวกมึงจะรอดก็รอดไป แต่กูจะดูว่าถ้ากูตาย พวกนี้จะอยู่มั้ย ทุกคนยกมือสู้กับพี่หมดเลย ถึงชนะไง ไม่งั้นเรียบร้อย พี่ถามว่า ครั้งหนึ่งที่รับราชการ เราอาจไม่ใช่คนดีที่สุดนะ สุดยอดสารพัด เราก็มีมลทิน แต่ถามว่า ถ้าเรามีโอกาสปกป้องบ้านเมืองได้ ปกป้องความเป็นเอกราชได้ ทำไมเราไม่ทำ เราไม่มีโอกาสมากนะ ณ จุดๆ หนึ่ง เรามีเวลา ไม่กี่เดือน ไม่กี่ปีเอง ถ้าเราไม่ทำ จะให้เหมือนกรุงเทพฯ เหรอ มันยับเยินไปหมด
พี่บอกเลยว่า ถ้าเป็นพี่ พี่ยอมไม่ได้ ในประวัติศาสตร์ต้องจารึกว่า อย่างน้อยถ้าพี่จะตาย ครั้งสุดท้ายขอให้พี่ตายในหน้าที่ตรงนี้ละกัน พี่ไม่รู้จักใคร ก็รบอย่างเดียว ก็รอดมาได้ ทุกคนยังงงกันหมดเลย ว่าเชียงใหม่ ไม่ถูกเผาศาลากลางได้ยังไง ก็ขอกับผู้ว่าฯบอกว่า ท่านวางพระแสงดาบที่นั่น แล้วถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ผมขอพระแสงดาบนี้เป็นคำสั่งจากฟ้ามา ผมสู้เอง มีพระแสงดาบ ถือว่ามีคำสั่ง โบราณเขาว่า พี่ยิงฉิบหายเลย ยิงเป็นร้อยนัด มันถึงถอยกัน มันเผาศาลากลางไม่ได้ มันจะไปเผาจวนผู้ว่า พี่อยู่ที่กองบังคับการส่วนหน้า ค่ายกาวิละ ลูกน้องรายงานว่า นายไม่ไหวแล้ว ผมขออนุญาตยิง ก็ถามว่าไม่ไหวยังไง ก็ว่ามันแบ่งกันทำหน้าที่เร็วมาก คนจุด คนเผา โยนกันสารพัด ก็มีอยู่กองร้อยหนึ่ง มีปืน 200 ก็เลยว่า ยิงอย่างเดียว กูรับผิดชอบเอง
จากนั้นก็ขึ้นรองผบช.ภ.5 ก่อนขอย้ายมาอยู่จเร ซึ่งในทางสังคมตำรวจ ก็คิดว่าตกต่ำที่สุดแล้ว ถ้าย้ายมาแบบนี้ ถูกต้องมั้ย แต่นี่เขากลัวพี่จะตกต่ำน้อยไป ให้ไปอยู่ประจำอีก เพราะมันไม่ได้เงินประจำตำแหน่ง ถูกตัดไปเลย แต่ถามว่าพี่ท้อถอยมั้ย ไม่ พี่เฉย เรานักรบ รบเสร็จ บางคนก็ถูกประหารก็ไม่เห็นเป็นไรเลย อยู่ที่ได้ทำรึเปล่า พ่อแม่เราก็เป็นคนไทย พ่อแม่เราก็ไม่ใช่เศรษฐี ยากจนด้วย เรามาได้ขนาดนี้ก็เป็นบุญแล้ว แถมยังมีสนามรบให้เรามาสนุกสนานอีก ก็จากประจำ มาอยู่ที่ บช.ก.พี่หมู เอามา มอบหมายงานปราบปรามทั่วประเทศ พี่บอกกับเราตรงๆ นะ พี่เน้น ความซื่อสัตย์เป็นหลัก พี่ไม่ออกนอกเกมอยู่แล้ว
พี่ไม่ถนัด ประเภทไปไถใคร พี่ไม่ทำ พ่อแม่พี่สอนมา มีแค่ไหน ก็แค่นั้น แต่ถ้าปราบปรามคนชั่ว พี่มีความภูมิใจ เพราะมันเป็นหน้าที่ เรื่องนรกตกอยู่แล้ว
บอกไปเลย เขียนไปเลย บอกเลยว่า สมหมายบอกว่าเรื่องนรก ตกอยู่แล้ว พระพุทธเจ้าไม่ให้อภัยอยู่แล้ว เราทำเขา เขาก็เจ็บปวด แต่ถามว่าถ้าแผ่นดินนี้สงบ นักรบรุ่นเก่าเขาทำไมเขาได้ภูมิใจว่าเขาได้สร้างชาติไทยล่ะ เราไม่มองแบบนั้นบ้าง แต่ละพระองค์ ก็ดูสิ พระนเรศวร พระเจ้าตากสิน ท่านสิ้นพระชมน์ที่ไหน เล็กๆ ท่านไม่ได้กอดพ่อแม่เลย ดูสิ แล้วเราไปไหนก็นั่งรถ สมัยก่อนเขาขี่ม้า และเดินด้วย แค่นี้ตายก็มีความสุขแล้ว คือพี่ได้ทำหน้าที่ของตำรวจ ของนักเรียนนายร้อยมาพอสมควรแล้ว ประชาชนเท่านั้นที่จะรู้ว่าเราเป็นยังไง หรือถ้าเขาไม่รู้ ตัวเราเองก็รู้ดี เมีย และลูก เราก็รู้ดีว่าเราทำอะไร ช่างหัวมัน อย่าไปตกใจอะไร เกียรติยศมีอยู่ที่หัวใจ ไม่ได้มีอยู่ที่อะไรเลย ใช่มั้ย ชื่อเสียง เกียรติยศ เขามีให้อยู่แล้ว เราต้องรักษาไว้ เพียงแต่เราจะรักษาไว้นานแค่ไหน ถ้ายิ่งใหญ่แล้วไม่มีเกียรติยศจะมีประโยชน์อะไร เดินไปที่ไหน สื่อมวลชนก็แตกฮือ น่ารังเกียจ เหม็นเน่าไปหมด เราอยู่ของเราอย่างนี้ได้ ไม่ต้องหรูหราอะไรมากมาย
พี่ถือว่า ทุกอย่างจบก็คือจบ ถ้าไม่จบที่พี่ ก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็เล่นกันให้เป็นละกัน แต่ถ้าให้เลือกบ้านเมืองกับสถาบัน ประชาชน ทำไมเราไม่ทำให้ประชาชนเห็นว่าตำรวจเรามีจุดยืนยังไง คุณจะทำโครงสร้างเราใหม่ จะรีเอ็นจิเนียริ่งระบบตำรวจ ทำเลย เพราะยังไง ตราบใด ถ้ารัฐบาลยังต้องการให้มีตำรวจอยู่ มันก็ต้องมีตำรวจอยู่ เราก็ต้องเกษียณไป แต่รุ่นใหม่ ที่ยังอยู่ก็อย่าไปตกใจ ทำอย่างที่สอบสวนกลางทำอยู่อย่างทุกวันนี้ ทำให้ได้ ไม่ต้องไปอธิบายใคร เดี๋ยวสื่อมวลชนจะตอบเอง
ไม่ต้องไปทะเลาะกับใคร อยู่ตรงนี้ 1.พี่มีนายดี พี่ภูมิใจ พี่หมู เป็นนายที่ดี 2.ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็รู้จักกันดี เขาไม่เคยเป็นอุปสรรคในการทำงานของพี่เลย 3.พี่จะทำยังไงพี่จะตอบแทนบุญคุณคนพวกนี้ได้ที่เขาให้โอกาสเรา เพราะฉะนั้นพี่จะทำ พี่จะพูดเสมอว่า ทำงานให้ประชาชนมีความสุข ไม่ใช่ทำให้เรามีความสุข เราต้องเหนื่อยอยู่แล้ว แต่เพียงถ้าประชาชนยิ้มกับเรา ก็พอใจ ความยุติธรรมไม่ต้องร้องขอ คำพูดคำนี้น่าจะได้ยินจากตำรวจทั้งประเทศนะ เรานี่อยู่บนต้นน้ำที่มีความเป็นธรรมก่อน แล้วประชาชนก็จะพึ่งได้ แล้วจะอยู่ยังไง ไม่ต้องพูดถึงโลโก้นี่ แม่ง เอาตังค์อีกแล้ว ตำรวจก็จะเก่งแต่เปิดบ่อน เปิดสถานบริการ แล้วก็ดูพวกสีเทาทั้งหลาย ว่ากูจะได้เดือนละเท่าไหร่ อย่างงี้มันก็จะติดหนี้พ่อแม่มึงมากเหลือเกิน นามสกุลนี้ พี่คิดอย่างนี้ พี่โดน แต่พี่ไม่เคยลงโทษใครเลยนะ บอกว่าใจเย็นๆ ค่อยๆ แก้ ถามคำเดียวว่าจะเป็นคนดีได้มั้ย ถ้าเป็นได้ เราจะช่วย
กว่าจะมาเป็นตำรวจได้แต่ละคน มันใช้เวลาตกผลึกนานมาก ถ้าเราทำให้ผลึกนั้นมันใสขึ้นเรื่อยๆ เราน่าจะทำนะ ไม่ใช่ทำให้มันแตกร้าว หรือขุ่น มันไม่มีเวลาแล้ว คนเรามีเวลาสั้นมาก อยู่กับตัวเอง ก็หลงตัวเองตลอดเวลาเลย นี่ กูเป็นนายพล ทำยังไง กูจะได้เป็น พล.ต.ท.จะได้ไปอยู่ในพื้นที่นั้นพื้นที่นี้ ถามว่าพื้นที่ซึ่งอยากจะไปอยู่ คือมันมีสตางค์ใช่มั้ย อยากไปอยู่ มึงไปที่ที่ไม่มีสตางค์ จะรีบแต่งตั้งเลย ทำไมไม่ไป ตอบไม่ได้ ยังเห็นแก่ตัวกันอยู่มาก ณ เวลาที่พี่ไปอยู่อีสาน มี ผกค.เยอะแยะ พี่ได้เหรียญชายแดนพิทักษ์ พี่ก็ได้ทวีคูณ ไม่เห็นเอามาให้พี่บ้าง
ทำไมต้อง 3 จังหวัดอย่างเดียว พี่ก็เหน็ดเหนื่อยนะ พี่ก็เสี่ยงตายมานะ พี่ถึงไม่อยากพูดอะไร แล้วพี่น้ำตาไหลเลย พ่อแม่นักเรียนนายร้อยตำรวจบางคน ลูกไปอยู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้วร้องไห้ฟูมฟาย แต่ถามว่าทหารเนี่ย จปร.ส่งไปปุ๊บตายเลย นักบินขับเครื่องบินไปตาย เขาก็ไม่อยากให้ลูกเขาตาย ใครจะให้ลูกมาตาย เห็นแล้วอายเขา เห็นแก่ตัวกัน
พี่ก็ไม่ใช่คนดี ไม่ขวางทางใคร แต่ถ้ามันเลวจนเกินรับไหวก็ไม่ได้ ถ้าประชาชนเขารับได้ ก็อยู่กันไป แต่ถ้าเขารับไม่ได้ก็ต้องซวยกันนะ ก็ต้องบอกตรงๆ ถ้าเขาไม่เอา แล้วไปฝืน อย่างบางพื้นที่เขาไม่ต้องการเอาสีเทามาไว้ใกล้ๆ บ้าน เขาก็รับไม่ได้ พี่เกลียดมากเรื่องยาเสพติด พี่บอกตรงๆ เพราะมันเป็นความเห็นแก่ตัวของมนุษย์อย่างร้ายกาจ เพราะอะไร มึงซื้อมาเม็ดละบาท ขายเม็ดละ 200 กำไร 200 เปอร์เซ็นต์ แล้วถ้ามันทำกันทุกคน มึงจะเอาประเทศไทยไว้ตรงไหน ตำรวจทุกโรงพักค้าเองหมดเลย นักค้าจะเจ๊งหมด แล้วจะอยู่ยังไง ไม่มีละเว้นอะไรกันเลย