จากกรณีการค้นบ้านพักนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง นั้น พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. กล่าวถึงในส่วนของรถลัมโบกินี่ ที่กำลังมีการตามมาเพื่อตรวจสอบนั้น ว่า นายไซซะนะ ได้มีการนำเงินมาฟอกเงินเป็นรถยนต์ ซึ่งก็คือรถยนต์ ลัมโบกีนี่ ที่นายอัครกิตติ์ ได้ขับออกไปจากบ้านพักเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เพราะนายณัฐพล หรือ บอย รับว่ารถคันนี้เป็นของนายไซซะนะ โดยต้องเร่งให้เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนก่อน ว่า นายณัฐพลกับนายอัครกิตติ์ รู้จักกันอย่างไร แต่ทั้งสองคนนี้ต้องรู้จักกันแน่นอน ไม่เช่นนั้นนายอัครกิตติ์จะเอารถยนต์ของนายไซซะนะมาได้อย่างไร
พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวต่อว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบรถยนต์ ลัมโบกีนี่คันดังกล่าว พบว่าแผ่นป้ายทะเบียนรถที่ติดอยู่ที่รถลำโบกีนี่ในขณะนี้เป็นของคนลำพูน แต่จากการตรวจค้นภายในที่พักของนายอัครกิตติ์เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา พบสมุดจดทะเบียนลัมโบกีนี่ที่เป็นชื่อของนายอัครกิตติ์
ดังนั้น จึงต้องขอให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องขณะนี้เป็นการตรวจสอบจากพยานหลักฐานที่เราเห็นในเบื้องต้น แต่ถ้าเกิดว่าเมื่อตรวจสอบแล้วพยานหลักฐานมันขัดกัน นายอัครกิตติ์ก็ทำผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ เบื้องต้นจากการตรวจสอบธุรกิจของนายอัครกิตติ์นั้น ยังไม่พบว่ามีการทำธุรกิจอื่น มีเพียงธุรกิจที่เกี่ยวกับรถยนต์นี้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นายอัครกิตติ์ยังไม่มีความผิด เพียงแต่แค่มีการรับทรัพย์สินของนายไซซะนะไว้ จึงต้องรอให้นายอัครกิตติ์เข้ามาให้ข้อมูลถึงที่มาที่ไปของทรัพย์สินดังกล่าวก่อน ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อไปทางแม่ของนายอัครกิตติ์แล้ว เพื่อให้ประสานให้นายอัครกิตติ์เข้ามาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งคาดว่าในวันนี้จะทราบเรื่อง
พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวว่า สำหรับเครือข่ายยาเสพติดมีอยู่อีกกว่า 100 เครือข่าย กระจายไปอยู่ทุกแห่ง โดยเครือข่ายยาเสพติดของนายไซซะนะเป็นอันดับต้นของอาเซียน ซึ่งปัจจุบันเลยประเทศมาเลเซียไปแล้ว รวมถึงมีการส่งไปยังสหรัฐอเมริกาหรือประเทศเกาหลีด้วย ซึ่งนายไซซะนะ รวยถึงขนาดมีรถหรู 5,000 กว่าคัน ซึ่งเขาขายรถยนต์ด้วย ซึ่งที่ประเทศลาวมีรถหรูจอดอยู่จำนวนมาก ส่วนเหล่านี้จะมีการนำไปแจกให้กับกลุ่มพ่อค้ายาเสพติดที่สามารถขายยาเสพติดได้ตามเป้าด้วยหรือไม่นั้น ก็สามารถเป็นไปได้