เรื่องเล่าจากเด็กชายที่เขียนจดหมายถวายฎีาต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อขอให้ช่วยรักษาพ่อที่มีอาการป่วย
เมื่อครั้งที่ "นที บุญยสุขานนท์" เด็กชายวัย 7 ขวบชาว ต.พงสวาย อ.เมือง จ.ราชบุรี เขียนจดหมายเพื่อถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 นั้น เขาคิดเพียงว่า เมื่อในหลวงเป็นเทวดาตามที่แม่เคยบอกก็น่าจะช่วยรักษาพ่อที่มีอาการเจ็บป่วยเป็นแผลที่ขาและตามองไม่เห็นได้ เด็กน้อยหย่อนจดหมายลงตู้ไปรษณีย์โดยไม่ได้หวังว่าจะได้รับการตอบกลับ
ทว่าไม่นานหลังจากนั้น หนังสือตอบกลับจากสำนักพระราชวังก็ถูกส่งมาถึงหน้าประตูบ้าน
ความทุกข์ของพสกนิกรมิเคยพ้นจากสายพระเนตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช.....
"นที" ในวัย 14 ปี ย้อนความถึงเรื่องราวเมื่อครั้งนั้นว่า ตอนนั้นอายุ 7 ขวบ นั่งดูในโทรทัศน์แล้วเห็นในหลวง แต่ยังไม่รู้จัก จึงถามแม่ว่าคือท่านเป็นใคร แม่ก็บอกว่าท่านคือเทวดา ท่านช่วยเหลือคนมากมาย ทำให้คิดว่าเมื่อท่านเป็นเทวดาก็น่าจะช่วยรักษาพ่อได้ จึงได้เขียนจดหมายไปหา โดยเขียนแบบเด็กๆ เขียนด้วยดินสอ และไม่คิดว่าจะได้รับหนังสือตอบกลับ ซึ่งหลังเขียนเสร็จก็ไม่ได้บอกใคร และเมื่อพ่อขี่จักรยานมารับเพื่อไปช่วยขนผักที่ตลาด ก็แอบเดินไปส่งจดหมายที่ไปรษณีย์ โดยบอกว่าจะไปซื้อขนม หลังจากนั้นอีกไม่นานก็มีหนังสือตอบรับกลับมาจากสำนักพระราชวัง
"สำนักพระราชวังมีหนังสือตอบรับกลับมาว่า จะมารับตัวพ่อไปรักษา ซึ่งถือเป็นความปลื้มปิติและเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อครอบครัวอย่างหาที่สุดมิได้ ตอนนั้นรู้สึกดีใจที่จะมีคนมารักษาพ่อ ทำให้พ่อไม่เสียชีวิต หลังจากนั้นประมาณ 2 อาทิตย์ก็มีคนมารับพ่อไปรักษา"
นทีเล่าอีกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ยังพระราชทาน ทุนการศึกษาให้เดือนละ 1,000 บาท ข้อความในจดหมายระบุด้วยว่า ขาดเหลืออะไรก็ให้เขียนจดหมายไปแจ้งได้ แต่ก็ไม่เคยเขียนไปเพราะสิ่งที่ท่านพระราชทานมานั้นเยอะมากแล้ว
"เมื่อทราบข่าวเสด็จสวรรคต ผมรู้สึกเสียใจมากไม่คิดว่าจะมีวันนี้ เพราะผมยังไม่ได้ตอบแทนเลยที่พระองค์ท่านได้ช่วยครอบครัวผม ทุกวันนี้ได้น้อมนำเรื่องของเศรษฐกิจพอพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน โดยการประหยัดไม่ฟุ่มเฟือย ตั้งใจเรียนซึ่งผลการเรียนนั้นเกรดเฉลี่ยอยู่ประมาณ 3 กว่า ผมตั้งใจว่าอยากจะเป็นทหารรักษาพระองค์ ผมอยากตอบแทนพระองค์ท่าน"