เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 21ก.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.บช.น. กล่าวถึงความคืบหน้าคดี นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือนางไก่ ว่า วันนี้ศาลได้อนุมัติออกหมายจับ นางมณตา ในข้อหาค้ามนุษย์ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1411/2559 ลงวันที่ 21 ก.ค.แล้ว โดยรายละเอียดตนได้ส่งทีมสืบสวนลงไปไปที่แม่ฮ่องสอน ตรวจสอบพบว่า เมื่อปี 2551 ถึง ต.ค.2553 นางไก่ ไปหลอกชาวเขาหญิง 3 คนมาทำงานรับใช้เรื่อยมา กระทั่งเมื่อปี 2554 ถึง 2555 ได้หลอกให้ชาวลาวมาทำงานรับใช้ในลักษณะเดียวกัน หลังจากนั้นก็มีการบังคับใช้แรงงาน หาผลประโยชน์โดยมิชอบ และยังมีข้อเท็จจริงอีกหลายๆ อย่าง สุดท้ายวันนี้ศาลก็ได้อนุมัติหมายจับนางไก่ ในข้อหาค้ามนุษย์ เหตุเกิดในท้องที่ ประชาชื่น เป็นอีกข้อหาหนึ่งที่ได้ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิด การขอออกหมายจับเพื่อชี้ให้เห็นว่าไม่มีอิทธิพล
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์เมื่อปี 54 น.ส.กาบแก้ว สัญชาติลาวได้ออกจากบ้านไปแล้วนางไก่ก็มาแจ้งความว่า ถูกลักทรัพย์ไปจำนวน 12 รายการ 2.9 ล้านบาท ซึ่ง น.ส.กาบแก้วและน.ส.ทำมา ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนลักทรัพย์ ตนพยายามประสานมาให้ข้อมูลเพื่อต้องการที่จะให้ความเป็นธรรมกับผู้บริสุทธิ์ และต้องการที่จะให้ต่างชาติหรือนานาชาติได้ เห็นว่าประเทศไทย รัฐบาลไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจนครบาล สามารถให้ความเป็นธรรมกับทุก คนไม่เฉพาะคนไทย คนต่างชาติจะได้มีความเชื่อมั่นมาประเทศไทย ส่วนมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการเพิกถอนหมายจับลูกจ้างชาวลาวนั้น เรื่องนี้เหตุเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 54 ตนได้ประสานกับกองทุนยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ความช่วยเหลือแล้ว เนื่องจากมีหมายจับและคดีความเกิน 5 ปี ต้องมีหลักประกัน ทาง บช.น. จะช่วยในเรื่องการแสวงหาความยุติธรรม หากชาวลาวทั้ง 2 คนไม่มีความผิด ทั้งนี้ตนจะส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อให้มีคำสั่งพนักงานสอบสวนให้สอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้ทั้ง 2 คนได้รับความเป็นธรรม
ส่วนกรณีนายตำรวจ 16 คน ที่มีความเกี่ยวข้องกับสำนวนการสอบสวน ขณะนี้ดำเนินการอย่างไรบ้าง พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า วันนี้ตนจะมาดูว่ามีการสรุปความเห็นมาอย่างไร ตอนนี้มีตำรวจที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาอีก 1-2 คน แต่ไม่อยากให้ประชาชนเกิดความกังวลว่าจะมีการช่วยเหลือปกปิด เรายึดหลักความถูกต้อง ตำรวจที่ไม่ได้ทำผิดอย่างร้ายแรงก็ไม่ต้องกังวล เบื้องต้นทั้งหมดมีความผิด คือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ตร.ที่ 419 และคำสั่ง ตร. ที่ 960 ที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ในเมื่อคำสั่งระบุว่าให้ตรวจสำนวน ตรวจสอบเร่งรัดการดำเนินคดีอาญาของพนักงานสอบสวน ทั้งนี้หากมีข้อมูลว่ามีตำรวจท่านใด ไปรับใช้จนเกิดเหตุ มีความสนิทสนมจนก่อให้เกิดความไม่เป็นกลาง ก็ต้องรับผิด แต่หากไม่มีการทุจริตอะไร ก็เป็นเรื่องของความผิดวินัยไม่ร้ายแรง อย่างไรก็ตามหากผลสอบออกมาแล้วจะมีการเรียก 16ตำรวจมาพูดคุยหรือไม่นั้น เบื้องต้นยังไม่เรียกมาคุย เพราะมีบางคนได้ย้ายออกจากนครบาลไปแล้ว โดยตามขั้นตอนหากผลสอบออกมาแล้ว ตนจะดำเนินการให้ พล.ต.ต.ธนพล สนเทศ รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานจเรตำรวจ เป็นหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวนท้อเท็จจริงต่อไป