โดยวันนี้โจทก์และจำเลยทั้งหมดพร้อมทนายความเดินทางมาศาล เมื่อถึงเวลานัดไต่สวน ศาลเชิญผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากห้องพิจารณาคดี เพื่อไกล่เกลี่ยคู่ความ ขณะที่นางประนอมยกมือไหว้ทักทายสื่อมวลชน ก่อนกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า วันนี้ตั้งใจมาขอความเป็นธรรมจากศาล เรื่องเรียกทรัพย์สินของตัวเองกลับคืน และมั่นใจว่าศาลจะให้ความเป็นธรรมในการไต่สวนคดีต่อไป
จากนั้นเวลา 12.00 น. นางประนอม เดินออกมาจากศาล พร้อม น.ส.ศิริวัลย์ แดงสุภา บุตรสาวคนรอง โดยนางประนอม เปิดเผยหลังการไกล่เกลี่ยคดีว่า เมื่อศาลท่านเมตตาไกล่เกลี่ยให้อีกครั้ง แต่นางศิริพรยังยืนกรานไม่คืนทรัพย์สินให้ตามที่ขอคืน คือ 1.ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างบ้านเขาใหญ่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จำนวน 1 แปลง 2.ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในหมู่บ้านเศรษฐกิจ เขตภาษีเจริญ 34 แปลง 3.หุ้นบริษัทพิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม จำกัด ของนางประนอม หุ้นหมายเลข 20001-38200 จำนวน 18,200 หุ้น 4.เงินปันผลของบริษัทพิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอมจำกัด เดือนละ 1 ล้านบาท 5.เงินสด 300 ล้านบาท แลกกับกรรมสิทธิ์หุ้นในบริษัทที่เป็นของนายศิริชัย จำนวน 20,000 หุ้น และผลกำไรจากผลประกอบการบริษัทตั้งแต่ปี 2556 ถึงปัจจุบัน และ 6.ที่ดินกองมรดก ที่ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม 9 แปลง โดยอ้างว่าต้องเก็บไว้เลี้ยงหลายครอบครัว แต่ไม่คิดเลี้ยงแม่ ตนจะสู้คดีจนถึงที่สุด และจะไม่ยอมให้นางศิริพรเอาชื่อแม่ประนอม และใบหน้าของตนไปขายเป็นตราสัญลักษณ์สินค้าของบริษัทต่อไปอีก ให้ไปสร้างชื่อและตราผลิตภัณฑ์ใหม่ขายเอาเอง ถึงตรงนี้เมื่อต้องพังก็ต้องพัง
นายพิสิทธ์ ชุติพรพงษ์ชัย ทนายความของนางประนอม กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่าเมื่อเช้าศาลไกล่เกลี่ยแต่ยังตกลงกันไม่ได้ เนื่องจากติดขัดเรื่องทรัพย์สินบางอย่าง จึงเจรจากันไม่สำเร็จ ตอนนี้ถือว่าการไกล่เกลี่ยจบไปแล้ว ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายวันนี้ ศาลได้นัดสืบพยานโจทก์ คือฝ่ายนางประนอม โดยตนเตรียมพยานไว้ 2 ปาก คือ นางประนอมและคนขับรถ ส่วนฝ่ายคู่กรณีทราบว่าเตรียมพยานไว้ 9 ปาก คาดว่าจะใช้เวลาถึงช่วงเย็น
วันนี้ไต่สวนแม่ประนอม พยานโจทก์เสร็จ 1 ปาก ส่วนพยานโจทก์อีกปาก คือคนขับรถ ศาลเลื่อนให้ไปไต่สวนในวันที่ 11 ส.ค. เวลา 09.00 น.