ลูกจ้างร้านก่อสร้างชกตร.เลือดอาบ

ลูกจ้างโหดสังหาร "เถ้าแก่เนี้ย" ร้านวัสดุก่อสร้าง

ดิ้นหนีสุดฤทธิ์ขณะถูกล้อมจับ สาวหมัดโดนหน้าตำรวจชุดสืบสวนเลือดอาบต้องเย็บกว่า 10 เข็ม สุดท้ายจนมุมสารภาพต้องการชิงทรัพย์นายจ้างเพื่อหาเงินซื้อเหล้าดื่ม
 

หลังจากถูกตำรวจสอบปากคำอย่างเคร่งเครียดนานหลายชั่วโมง

ในที่สุดนายจรินทร์ พันธ์ศิริ หรืออ๊อด อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/1 หมู่ 5 ต.อุโคกสี่หมื่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี และนายปาย อายุ 23 ปี ชาวพม่า สองลูกจ้างจอมโหด ก็ยอมสารภาพว่า ร่วมกันสังหาร นางวาสนา แซ่ตั้ง อายุ 47 ปี เจ้าของ หจก.ศรีสาธิต จำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ตั้งอยู่เลขที่ 857/1 สุขุมวิท 101/1 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม.

เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 9 กรกฎาคม ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี แต่หนีได้ไม่ทันข้ามวันก็ถูกตำรวจติดตามจับกุมได้ โดยนายจรินทร์ถูกจับที่ริมถนนศรีนครินทร์ พื้นที่แขวงหนองบอน เขตประเวศ ส่วนนายปาย ถูกจับได้ที่หน้าบ้านพักคนงาน หจก.นำเจริญวัสดุด่วน ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเย็นวันที่ 10 กรกฎาคม

ขณะ พ.ต.ท.ฐาปกรณ์ อินทะชัย สว.สส.สน.พระโขนง พร้อมกำลังได้บุกจับกุมผู้ต้องหาทั้งสอง มีการต่อสู้ขัดขวางการทำงานของตำรวจ โดยผู้ต้องหาสาวหมัดใส่หน้าตำรวจชุดจับกุมนายหนึ่งจนคิ้วซ้ายแตก แพทย์ต้องเย็บถึง 10 เข็ม แต่ตำรวจก็สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองเอาไว้ได้ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ กระทั่งถูกตำรวจสอบสวนอย่างหนัก จึงยอมรับสารภาพว่าร่วมกันสังหารนายจ้างจริง เพราะต้องการชิงทรัพย์ หาเงินไปซื้อเหล้าดื่ม

หลังผู้ต้องหารับสารภาพ

พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้นำผู้ต้องหามาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดย พล.ต.ท.อดิศร ระบุว่า หลังผู้ต้องหารับสารภาพพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีฐานร่วมกันชิงทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตแก่นายปายอีกกระทง
 

พล.ต.ท.อดิศร กล่าวว่า นายปายรับสารภาพว่าเคยรับจ้างขับรถไถนาที่ประเทศพม่า

ก่อนลักลอบหนีมาทำงานในเมืองไทย โดยมีเพื่อนชาวกะเหรี่ยงที่ทำงานอยู่ร้านดังกล่าวชักชวนมา ได้ค่าแรงวันละ 200 บาท ทำได้ประมาณ 6 เดือน ก่อนเกิดเหตุไปดื่มเหล้าขาวกับนายจรินทร์หมด 2 ขวด

เมื่อเงินหมดจึงวางแผนชิงทรัพย์นางวาสนา ซึ่งอยู่เฝ้าร้านเพียงลำพัง

เพื่อหาเงินไปซื้อเหล้าดื่มต่อ เมื่อไปถึงพบนางวาสนากำลังนั่งทำบัญชีที่โต๊ะทำงาน จึงชกหน้าผู้ตายจนล้มลงก่อนรุมกระทืบและใช้เชือกรัดคอจนแน่นิ่ง ส่วนนายจรินทร์ถอดกางเกงแล้วใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าที่ซื้อมาจากตลาดคลองถมราคา 100 บาท ช็อตอวัยวะเพศของผู้ตาย เพื่อเบี่ยงเบนให้ตำรวจเข้าใจผิดว่าผู้ตายถูกฆ่าข่มขืน ก่อนจะหยิบเงินสดจำนวน 4 หมื่นบาท ในกระเป๋าสะพายของผู้ตายไป โดยแบ่งให้นายจรินทร์ 1 หมื่นบาท และของตน 3 หมื่นบาท ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี