นางปรียนันท์ กล่าวอีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เกิดข้อสงสัยว่า มาตรฐานการตรวจ มาตรฐานห้องแล็บเป็นอย่างไรกันแน่ ทั้งที่ผลแล็บเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะส่งผลต่อชีวิตของคนไข้ โดยเฉพาะเชื้อเอชไอวีที่รักษาไม่หาย เมื่อคนไข้รู้ผลย่อมเกิดความทุกข์และทรมานจิตใจ ไม่กล้าแม้แต่จะไปตรวจซ้ำที่อื่นเพราะอับอาย กรณีนี้สะท้อนให้เห็นว่าแม้จะเป็นรพ.เอกชนชื่อดังก็ผิดพลาดได้ แต่เมื่อผิดพลาดแล้วกลับไม่มีความรับผิดชอบ ต้องให้ผู้เสียหายไปฟ้องศาลเอาเอง ซึ่งขณะนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว คงปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งยังต้องสู้กันต่อไปในชั้นอุทธรณ์และฎีกา ไม่รู้อีกกี่ปีจึงจะสิ้นสุด เฉพาะศาลชั้นต้นก็ 3 ปีกว่าแล้ว
ด้านผู้ป่วยที่ได้รับความเสียหาย กล่าวว่า รู้สึกเสียใจและเสียความรู้สึกกับระบบเช่นนี้ เนื่องจากไปตรวจเลือดและพบว่าติดเชื้อเอชไอวี และเข้าใจเช่นนี้มาเป็นเวลา 4 ปี โดยไม่กล้าไปตรวจซ้ำที่อื่น ซึ่งตอนนั้นเพิ่งเลิกกับสามี ซึ่งค่อนข้างเจ้าชู้เลยเข้าใจว่าอาจติดจากสามีหรือไม่ แต่พอช่วงหลังๆ สังเกตอาการตัวเองแล้วทำไมถึงสุขภาพยังดีอยู่ จนมาตรวจกับแพทย์อีกท่านที่โรงพยาบาลเดิมกลับพบว่า ไม่มีเชื้อเอชไอวี และได้รับคำตอบจากโรงพยาบาลว่า ร่างกายตนเองสามารถทำลายเชื้อเอชไอวี หากเป็นเช่นนั้นจริง ทั่วโลกคงมาเอาเลือดไปทำยาแล้ว ซึ่งรู้สึกว่าโรงพยาบาลปัดความรับผิดชอบมาก กรณีแบบนี้เป็นการละเมิดสิทธิอย่างมาก
ที่มา : เฟสบุ้ค ปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา
https://www.facebook.com/preeyanan.lorsermvattana.7
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว