ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตว่า เป็นเรื่องแปลกที่นักบินของเที่ยวบิน QZ8501 ของแอร์เอเชียไม่ได้ส่งสัญญาณฉุกเฉิน และยังตั้งสังเกตว่า เครื่องบินอาจบินช้าเกินไป ในช่วงที่จะขอเพิ่มเพดานบินเพื่อเลี่ยงพายุ
ผู้เชี่ยวชาญเริ่มเปรียบเทียบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเที่ยวบิน MH370 ของมาเลเซียที่หายไปอย่างไร้ร่องรอยนานเมื่อต้นเดือนมี.ค.ปีนี้ โดยจุดที่เหมือนกันคือ เครื่องบินของแอร์เอเชียหายไปจากจอเรดาร์ และขาดการติดต่อกับหอบังคับการบิน โดยไม่ทันได้ส่งสัญญาณฉุกเฉินใดๆ
แม้จะสันนิษฐานว่า เครื่องบินเผชิญกับสภาพอากาศเลวร้าย ที่อาจทำให้เครื่องบินแตกหักกลางอากาศ หรือ นักบินสูญเสียการควบคุมเครื่องบิน แต่ก็มีหลายคำถามที่ต้องการคำตอบ และอันดับแรก คือ นักบินจะต้องแจ้งสิ่งที่เกิดขึ้นกับหอบังคับการบินด้วยการกดปุ่มที่แผงควบคุมและแจ้ง ซึ่งจะใช้เวลาไม่กี่วินาที ที่โซลิด สเตท รีเลย์ หรือ SSR ซึ่งเป็นเครื่องส่งสัญญาณจะแจ้งไปยังหอบังคับการบินว่ากำลังเกิดปัญหาขึ้น
แต่เครื่องบินบินช้าเกินกว่าระดับที่เหมาะสมไป 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือว่าช้าเกินไปสำหรับเพดานบินในขณะนั้นและเป็นอันตรายมาก และความเร็วช้าเกินไป นำไปสู่ปัญหาด้านแอโรไดนามิก ขณะเดียวกันนักบินอีกคนของสายการบินแควนตัส ที่มีประสบการณ์การบินนาน 25 ปีบอกว่า การบินต้องสัมพันธ์กับอุณหภูมิภายนอก และการเพิ่มเพดานบิน อาจทำให้เรดาร์ประสบปัญหาเมื่อเผชิญสภาพอากาศเย็นจัด ทำให้นักบินอ่านค่าของข้อมูลเรดาร์ผิดไป และจะส่งผลนักบินตัดสินใจผิดพลาดได้