เปมิกา ฟ้องกลับ..!

"เปมิกา" ปัดเงื่อนไขคืน 10 ล้าน! แลกไก่เกลี่ย "เมียหมอเผ่า" ฟ้องแย่งสามี ระบุเงื่อนไขไม่เป็นธรรม ศาลยังไม่ได้ตัดสินว่าผิด

พร้อมยื่นบัญชีพยาน 5 ปากสู้คดี แถมส่งทนายความยื่นฟ้องกลับ "เมีย-พี่ชายหมอเผ่า" ฐานหมิ่นประมาท

จากกรณีไปให้สัมภาษณ์รายการทีวี "จับเข่าคุย" ของพิธีกรดัง "สรยุทธ์" หาว่าหลอกวางยา-ใช้จิตวิทยาหมู่ลวงหมอ และทำศัลยกรรมหน้า 17 ครั้ง ศาลนัดไต่สวนครั้งแรกเช้า 20 ส.ค.นี้

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 22 พ.ค. ศาลนัดพร้อมคู่ความเพื่อตรวจสอบบัญชีพยาน คดีที่นางอลิสา ทมทิตชงค์ ภรรยาของ นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ เจ้าของสถาบันกวดวิชาชื่อดัง "แอพพลายด์ ฟิสิกส์"

เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ศิวพร หรือ เปมิกา เหลืองเรณูกุล หรือ วีรชัชรักษิต นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นจำเลย เรียกค่าทดแทนจำนวนทุนทรัพย์ 27 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากกรณีที่ น.ส.เปมิกามีความสัมพันธ์กับสามีโจทก์โดยเปิดเผยในทำนองชู้สาว

โดยวันนี้ นางอลิสา โจทก์ เดินทางมาพร้อมกับ รศ.เพลินจิต มารดา นพ.ประกิตเผ่า สามี และนายทอง หลาง แพงศรีละคร ทนายความ

ส่วน น.ส.เปมิกา จำเลย ไม่ได้เดินทางมาศาล แต่มอบอำนาจให้ นายอภิชาติ ศรสาย ทนายความ เป็นผู้แทนยื่นบัญชีพยาน อย่างไรก็ดีก่อนการพิจารณานายอภิชาติ ทนายความจำเลย ได้ยื่นข้อเสนอไกล่เกลี่ยคดี

โดยนางอลิสา โจทก์ยินยอมจะไกล่เกลี่ยแต่ระบุเงื่อนไขให้ น.ส.เปมิกา ชดใช้ทรัพย์สินที่หลอกลวงไปจากสามีนับ 10 ล้านบาท ซึ่งนายอภิชาติ ทนายความจำเลย พิจารณาแล้วได้ปฏิเสธรับเงื่อนไข อ้างคดียังไม่มีคำพิพากษาว่า น.ส.เปมิกา กระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ ถือว่าเงื่อนไขไกล่เกลี่ยโจทก์ไม่เป็นธรรมกับจำเลย

แต่ยังไม่สามารถยื่นบัญชีระบุชื่อพยานได้ ทนายความจำเลยจึงแถลงคัดค้านว่า หากไม่ระบุรายชื่อพยานไม่อาจดำเนินกระบวนพิจารณาได้ในวันนี้ ซึ่งจำเลยเตรียม พร้อมจะนำพยานเข้าสืบต่อสู้คดีทั้งสิ้น 5 ปาก อาทิ

น.ส.เปมิกา, พ.ต.ท.ฐิติเดช อินทรแป้น สวส.สน.บางซื่อ ผู้รับแจ้งความจาก น.ส.เปมิกา ว่า นพ.ประกิตเผ่า ถูกควบคุมตัวโดยมิชอบ ด้วยกฎหมาย รวมทั้งนายอำเภอพุทธมณฑล จ.นครปฐม พยานร่วมเหตุการณ์ นพ.ประกิตเผ่า เตรียมจดทะเบียนหย่ากับภรรยา

โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อโจทก์ไม่ได้ระบุรายชื่อพยานให้ครบถ้วน จึงมีคำสั่งให้โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานภายใน 7 วัน และให้นัดพร้อมคู่ความอีกครั้งในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.

ภายหลัง รศ.เพลินจิต มารดา นพ.ประ กิตเผ่า กล่าวว่า โจทก์พร้อมจะไกล่เกลี่ย แต่โจทก์ยังติดใจเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ น.ส.เปมิกา ล่อลวงไปจากบุตรชายขณะคบหากัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้จำเลยชดใช้คืนทรัพย์สินดังกล่าวที่มีมูลค่านับ 10 ล้านบาท

การไกล่เกลี่ยถ้าโจทก์ยังยืนยันที่จะให้ชดใช้เงินจำนวนนับ 10 ล้านบาท น.ส.เปมิกา ไม่อาจรับเงื่อนไขได้ เพราะยืนยันว่าทรัพย์สินที่มีอยู่เป็นของ น.ส.เปมิกา ไม่ได้มาจากการล่อลวง ใด ๆ

อย่างไรก็ดีหากจะไกล่เกลี่ยกันต่อไปต้องให้ศาลเป็นคนกลางดำเนินการไกล่เกลี่ย แต่ถ้าเจรจาไกล่เกลี่ยกันไม่ได้ ก็ต้องต่อสู้คดีต่อไป ซึ่งจำเลยเตรียมพยานนำสืบไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ต่อมาในช่วงบ่าย ที่ศาลอาญา ถนนรัช ดาภิเษก นายอภิชาติ ศรสาย ทนายความ รับมอบอำนาจ น.ส.เปมิกา ได้ยื่นฟ้อง นพ.ประกิตพันธุ์ ทมทิตชงค์ และนางอลิสา ทมทิตชงค์ พี่ชายและภรรยา

นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามฟ้องโจทก์ระบุความผิดสรุปว่า

ด้วยการให้สัมภาษณ์ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการ "จับเข่าคุย" ทางสถานีโทรทัศน์สีช่อง 3 ในวันที่ 21 เม.ย. 50 เวลากลางคืน ใส่ร้ายโจทก์ว่าเป็นคนวางยา นพ.ประกิตเผ่า

อีกทั้งยังกล่าวข้อความดูหมิ่นโจทก์ด้วยว่า ทำศัลยกรรมใบหน้าถึง 17 ครั้ง และยังได้มีการทำบัตรประชาชน 4 ครั้งด้วย และใส่ร้ายโจทก์อีกว่าทำจิตวิทยาหมู่กับ นพ.ประกิตเผ่า

ซึ่งการที่จำเลยทั้งสองให้สัมภาษณ์โดยการเผยแพร่ภาพและเสียง ผ่านรายการจับเข่าคุยดังกล่าว เป็นเจตนาให้บุคคลที่รับชมรายการเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี วางยา นพ.ประกิตเผ่า และเป็นคนคดโกงหลอกลวง ทั้งที่ความจริงยังไม่ทราบว่า นพ.ประกิตเผ่า จะถูกวางยาหรือไม่

ซึ่งการกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองตามกฎหมายและให้จำเลยทั้งสองร่วมกันลงโฆษณาคำพิพากษา ในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ไทยรัฐ และหนังสือพิมพ์รายวันอื่นอีกอย่างน้อย 2 ฉบับ เป็นเวลา 7 วันติดต่อกัน

ศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณาเป็นคดีดำหมายเลข อ.1903/2550 และนัดไต่สวนมูลโจทก์ครั้งแรกในวันที่ 20 ส.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์