ส่วนที่เหลืออีกเกือบ 20% เป็นเพราะก่อนหน้านี้ชาวนาคิดว่าไม่มีโครงการรับจำนำ จึงไม่ใส่ใจมาจดแจ้ง รวมถึงมีชาวนาจาก 7 อำเภอลุ่มน้ำยม และลุ่มน้ำน่านฝั่งตะวันออก ที่เคยถูกน้ำท่วมนา และจะทำนาได้หลังจากน้ำลด ซึ่งเพิ่งเริ่มลงมือเมื่อเดือนตุลาคม คือ อ.สามง่าม อ.เมือง อ.โพธิ์ประทับช้าง อ.บึงนาราง อ.ตะพานหิน อ.โพทะเล อ.บางมูลนาก จึงต้องให้มาลงทะเบียนเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีรายงานให้ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะมีชาวนาหัวหมอที่เคยทำนาแปลงใหญ่ กลับมาแจ้งว่าทำนาแปลงเล็กแค่ 15 ไร่ ส่วนที่เหลือกลับแบ่งให้คนอื่นเช่าและจะมาขอสิทธิดังกล่าว จึงขอเตือนว่าเจ้าหน้าที่มีระบบการตรวจสอบที่เข้มงวด ซึ่งในฤดูจำนำข้าวปีที่ผ่านมาก็ดำเนินคดีไปแล้ว 226 ราย มีทั้งถูกศาลสั่งให้จำคุกและรอลงอาญา รวมถึงให้คืนเงินที่ได้ไปจากการแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จมาแล้ว
นายไพฑูรย์กล่าวว่า การขึ้นทะเบียนเกษตรกรจะมีการปรับปรุงตัวเลขเป็นรายวัน จนกว่าจะถึงวันที่ 30 ตุลาคมจะบัญชี ดังนั้นจึงอยากให้ชาวนาตื่นตัวในการรักษาสิทธิ และอย่าได้คิดฉ้อโกงรัฐบาล โดยข้อมูลของชาวนาพิจิตรเมื่อฤดูจำนำข้าวปี 56/57 มีผู้ขึ้นทะเบียน 51,356 ราย พื้นที่ 1.8 ล้านไร่ หรือเฉลี่ย 358 ไร่/ราย ดังนั้นปี 57/58 ก็คาดว่าน่าจะมีผู้มาขึ้นทะเบียนชาวนาไม่น่าจะเกิน 52,000 ราย รวมถึงผู้ที่ทำนาในทุกรูปแบบ ทั้งนาตัวเอง หรือนาเช่า รวมถึงทำนาในพื้นที่รอยต่อจังหวัดข้างเคียง ซึ่งต่อไปนี้หน้าโฉนดที่นาอยู่จังหวัดไหนก็ต้องมาขึ้นทะเบียนในเขตจังหวัดนั้น จึงมั่นใจว่าจะควบคุมไม่ให้เกิดการทุจริตได้อย่างแน่นอน