ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ผู้สื่อข่าวตรวจสอบเหตุการณ์เกี่ยวกับนายเธียน วุฑฒี ชาวกัมพูชา ที่นุ่งห่มชุดขาวแอบอ้างตัวเป็นพระพุทธเจ้ากลับชาติมาเกิด ไปยังนายซก สุวรรณ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์มีชื่อแห่งหนึ่งในกรุงพนมเปญ เมืองหลวงกัมพูชา
ด้านพระสิริวุฒิเมธี เจ้าคณะอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว กล่าวว่า การที่นายเธียนพูดชักจูงให้ญาติโยมหลงเชื่อว่าเป็นพระพุทธเจ้ากลับชาติมาเกิด แสดงว่านาย เธียนมีพรสวรรค์ด้านการพูด ส่วนที่หลายคนวิตกกังวลว่านายเธียนจะแอบบวชเป็นพระแล้วข้ามมาอยู่ในฝั่งไทย นั้น ไม่ต้องวิตกกังวล
ขณะที่นายภัค รธรณ์ เทียนไชย ผวจ.สระแก้ว กล่าวว่า ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองแจ้งให้คนไทยทราบถึงกรณีชาวกัมพูชาแอบอ้าง เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว คงไม่มีใครไปหลงเชื่ออีก อย่างไรก็ตาม คนไทยที่หลงไปกราบไหว้และเชื่อถือคงมีไม่มาก คนไทยส่วนใหญ่ในกรุงพนมเปญเป็นนักธุรกิจ อาจมีบางคนที่มีปัญหาด้านธุรกิจ เมื่อมีเพื่อนชาวกัมพูชาพูดให้ฟังถึงกิตติศัพท์ของนาย เธียนก็คงจะเข้าไปให้นายเธียนรดน้ำมนต์ เพื่อหวังให้ธุรกิจราบรื่น
ด้าน นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักพุทธฯ ขอเตือนคนไทยอย่าไปหลงเชื่อบุคคลผู้นี้ ว่าเป็นผู้วิเศษหรือเป็นพระพุทธเจ้ากลับชาติมาเกิด อย่าหลงเชื่อในปาฏิหาริย์ต่างๆ อาจทำให้ถูกหลอกเสียทรัพย์สิน แม้ชายคนดังกล่าวจะยังไม่ได้เข้ามาในประเทศไทยก็ตาม คงต้องฝากให้สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สระแก้ว พร้อมทั้งขอความร่วมมือพระสังฆาธิการเจ้าคณะปกครองต่างๆ ที่อยู่ใกล้ชายแดนกัมพูชาคอยดูแลและติดตามตรวจสอบเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ชาวบ้านตามแนวชายแดนหลงเป็นเหยื่อ
พระราชรัตนา ภรณ์ เจ้าอาวาสวัดแก้วฟ้าจุฬามณี เขตดุสิต กทม. ในฐานะหัวหน้า พระวินยาธิการ หรือตำรวจพระ กล่าวว่า ฝากเตือนชาวพุทธ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ตามแนวชายแดนกัมพูชา อย่าไปหลงเชื่อ เป็นการโกหกหลอกลวงให้คนเกิดความศรัทธาและบริจาคเงินให้เสียทรัพย์ แม้เรื่องราวที่เกิดขึ้นอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่หากพบการหลอกลวงลักษณะนี้ในจังหวัดใดในประเทศ ไทย ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่บ้านเมือง หรือสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ให้จัดการได้ทันที
ขณะเดียวกัน พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ แห่งวัดสร้อยทอง พระสงฆ์ชื่อดังในโลกสังคมออนไลน์ ร่วมโพสต์เฟซบุ๊กว่า หากพูดถึงการอวดอ้างการเป็นร่างทรง ร่างผ่าน หรือเป็นอวตารของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็มีอยู่ทั่วไปและเห็นบ่อยครั้ง ในทัศนะส่วนตัวของอาตมาคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล
พระมหาไพรวัลย์ระบุว่า คนพุทธเดี๋ยวนี้ชอบเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประเภททรงเจ้าเข้าผี เรื่องของอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ การบันดาลโชคลาภ เชื่อสิ่งที่มองไม่เห็น มากกว่าสิ่งที่พิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง คนพุทธจึงถูกมองว่าโง่งมงายและหลอกง่าย บางคนเมื่อรู้ว่าถูกหลอกก็โวยวายเอาเรื่อง
พระ มหาไพรวัลย์ระบุต่อว่า เรื่องแบบนี้ต้องเริ่มที่ตัวเอง คือต้องโทษตัวเองก่อน โทษความคิดที่ไม่ตริตรองถึงเหตุและผล โทษความงมงายงี่เง่า ความหวังแต่จะพึ่ง คนอื่น การคิดว่าชีวิตนี้จะไปฝากผีฝากไข้กับผีสางนางไม้ที่ไหนได้ ความเชื่อที่จะได้หรือมีอะไรโดยไม่ต้องลงทุน ความมักง่าย ความอ่อนแอ ความไม่รู้จักการแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง