สถานการณ์ชายแดนตึงเครียด พม่าเสริมกำลังเปิดศึกไทใหญ่

เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 30 มี.ค. ได้เกิดการปะทะกันอีกครั้งระหว่างกองกำลังไทใหญ่ เอสเอสเอ (SSA) กับทหารพม่า โดยจุดปะทะอยู่ห่างจากดอยก่อเมือง ฐานของกองกำลังไทใหญ่ ไปทางทิศเหนือประมาณ 3 กิโลเมตร และอยู่ตรงข้ามชายแดนไทย ด้านบ้านเทอดไทย ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย

เหตุการปะทะเกิดขึ้นขณะที่กองกำลังไทใหญ่ จากหน่วยรบเชียงตุง ที่มีฐานใหญ่อยู่ที่ดอยก่อวัน ตรงข้าม ต.เทอดไทย ออกลาดตระเวนไปพบกับชุดลาดตระเวนของทหารพม่า ซึ่งเป็นหน่วยปืนใหญ่ที่มีฐานอยู่ใกล้กับบ้านแม่เมาะในฝั่งพม่า (รัฐฉาน) ตรงข้ามชายแดนไทยด้านบ้านแม่เมาะ ต.เทอดไทย เช่นกัน โดยการปะทะใช้เวลานานประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นกองกำลังไทใหญ่ ได้ล่าถอยออกมา ไม่ผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนฝ่ายพม่ายังไม่ทราบความสูญเสีย

หลังจากเกิดการปะทะได้ไม่นาน ทหารพม่าจากกองพันทหารราบเบาที่ 328 ซึ่งมีฐานอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุได้เสริมกำลังไปยังบริเวณที่เกิดเหตุทันที และจนถึงขณะนี้ยังคงมีการเสริมอยู่อย่างต่อเนื่อง คาดว่าทั้งสองฝ่ายอาจจะเกิดการปะทะกันขึ้นอีกในเร็วๆ นี้

ได้เข้าสู่ภาวะตึงเครียด หลังเกิดเหตุกองกำลังทหารพม่ายิงอาสาสมัครทหารพรานของไทยเสียชีวิต 1 นาย ที่ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 21 มี.ค. และตามไปด้วยกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธ ดีเคบีเอ (DKBA) ควบคุมตัว 2 ตชด.ของไทย ด้าน จ.กาญจนบุรี

ถล่มฐานกองกำลังคะยา ด้าน จ.แม่ฮ่องสอน พลัดตกเข้ามาในเขตไทย รวมทั้งมีการขู่เผาโรงพักตำรวจใน อ.พบพระ จ.ตาก ของกองกำลังกะเหรี่ยงดีเคบีเอ ทำให้ไทยต้องมีการตรึงกำลังตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น

นจังหวัดท่าขี้เหล็ก ทหารพม่าก็ได้เสริมกำลังตามพื้นที่ตามแนวชายแดนเช่นกัน โดยเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา มีรถบรรทุกทหารของพม่าจำนวน 7 คัน จากจังหวัดท่าขี้เหล็กมุ่งหน้าไปยังดอยปางหนุน อยู่ทางทิศตะวันตกดอยก่อวัน ฐานของกองกำลังไทใหญ่ และเมื่อวันที่ 31 มี.ค. ก็ขึ้นไปสมทบอีก 9 คัน รวมไปถึงการเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติของทหารพม่าบนดอยกู่เต็งนาโย่ง หรือดอยปู่ปัญญา ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งด้านนี้เมื่อปี 2544 ได้เกิดข้อพิพาทกันระหว่างไทยกับพม่าแล้วครั้งหนึ่ง

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ